Dream Trip วางแผนเดินทางไป Tomorrowland

ถ้าพูดถึงเทศกาลดนตรีของโลกชั่วโมงนี้คงไม่มีอะไรจะฮอตฮิตเทียบเท่า Tomorrowland Festival ที่เมือง Boom ประเทศ Belgium อีกแล้ว เพราะเรียกได้ว่าเป็นเทศกาลดนตรี EDM ที่รวมเอาศิลปินดีเจชั้นนำของโลกไว้ในงานมากที่สุด โดยปีล่าสุดที่ผ่านมาเมื่อเดือนปลายกรกฎาคมซึ่งถือว่าเป็นการฉลองครบรอบ 10 ปีพอดีหลักจากครั้งแรกเมื่อปี 2005 ซึ่งมีคนเข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 200,000 คน ซึ่งมาจาก 86 ประเทศทั่วโลก
ทำไม Tomorrowland จึงเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของคอดนตรี EDM  ทั้วโลกเหตุผลทที่ทำให้ Tomorrowland นั้นเป็นที่สนใจของคนทั่วโลกอาจเป็นเพราะด้วยความที่ว่ามีเงินอย่างเดียวไปไม่ได้ต้องบวกโชค ดวง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ความเร็วอินเตอร์เน็ต และอีกมากมาย จึงทำให้คนที่ได้ไปยืนที่จุดนั้นรู้สึกเป็นเหมือนผู้ชนะและไปโบกธงประจำชาติของตัวเองร่วมกับชาติอื่นๆ
โดยวันนี้เราจะขอมาแนะนำแผนการเดินโดยคร่าวของการไปพิชิต Tomorrowland เผื่อใครกำลังวางแผนที่จะไปจะได้เตรียมตัวเตรียมใจกันไว้แต่เนิ่นจะได้ไม่พลาดประสบการณ์ Once in our life
Book Tickets

การจะได้ตั๋วถือเป็นสิ่งที่ยากที่สุดของทริปนี้เพราะเราต้องฝ่าฟันแย่งตั๋วกับคนทั้งโลก ไม่ได้อ่านผิด คนทั้งโลกและเน็ตบ้านแต่ละประเทศนั้นไปไกลกว่าบ้านเรามากแล้วเอาแค่เพื่อนบ้านในอาเซียนก็พอก็แรงกว่าบ้านเราเป็นไหนๆ ที่นี้พอเข้ามาได้ก็มาดู Package แต่ละ Package ว่ามีอะไรบ้างซึ่งจะแบ่งเป็นสองฟาก ระหว่างฝั่ง Ticket เข้างานธรรมดา กับฝั่ง Dreamvielle & Global journey
1.Ticket
เข้างานปกติ สำหรับคนที่มีที่พักอยู่แล้ว จะมีแบบ Regular และ Comfort แบบ เฉพาะวันและ 3 วัน
2.Global Journey คือแพ็คเกจที่ตั๋วเครื่องบินรวมตั๋วเข้างานรวมที่พัก หรืออาจจะเพิ่มทริปเที่ยวยุโรปเพิ่มไปในทัวร์ มีแตกต่างกันไป ส่วนราคาแพ็คเกจนี้ขึ้นอยู่กับตัวเลือกของเรา โดยประเภทของ  Global Journey จะแบ่งเป็นดังนี้
  • Flight Packages คือแพ็คเกจ บินตรงจากประเทศหลักๆในแต่ภูมิภาค ถึง Brussel Airport ซึ่งบ้านเราก็เป็นหนึ่งในจุดต้นทาง เราสามารถเลือกที่พักได้ว่าจะ พัก โรงแรมระดับ 3 – 5 ดาว หรือพักในดรีมวิลแต่จะได้แค่แพ็ค Dreamville Magnificent Green  สำหรับคนพักโรงแรมจะมี shuttle bus รับส่งจากโรงแรมถึงงานทุกวัน
  • Hotel Packages คือ แพ็คเกจที่เหมือน Flight Packages ทุกอย่างเพียงแต่แค่เราต้องหาตั๋วเครื่องบินของเราเอง และเดินทางไปยังที่พักใน Brussel เองซึ่งถ้าเราได้ตั๋วเครื่องบินถูกก็จะทำให้เราเดินทางประหยัดขึ้นนั้นเอง
  • Discover Europe Packages คือแพ็คเกจที่ได้ทั้งเที่ยว Tomorrowland และ ทัวร์ยุโรปไปในตัวด้วย โดยทาง Tomorrow จัดไว้ประมาน 4 แพ็คเกจด้วยกัน เหมาะสำหรับคนอยากเที่ยวต่อแต่ขี้เกียจจัดทริปเอง
    The Discover Europe packages:
    Tomorrowland created 4 type of travel packages for you, starting and ending in Brussels:
    Discover Europe – Package 1: 15 nights – 16 days : Discover 5 cities + Tomorrowland
    Discover Europe – package 2: ​12 nights – 13 days : Discover 4 cities + Tomorrowland
    Discover Europe – Package 3: ​​12 nights – 13 days, : Discover 4 cities + Tomorrowland
    Discover Europe – Package 4: ​​​12 nights – 13 days : Discover 4 cities + Tomorrowland
3.    Dreamville Package  ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าคือหมู่บ้านแห่งความฝันเป็นแพ็คเกจที่เราสามารถเลือกประเภทที่พักติดกับงานโดยทางทีมจัดงานได้จัดพื้นที่ไว้สำหรับเป็นที่พัก โดยที่พักจะมีหลากหลายแบบ และหลากหลายราคา
ความพิเศษของหมู่บ้านนี้คือเราจะได้ใช้ชีวิตที่สนุกสุดเหวี่ยงกับผองเพื่อน สร้างมิตรภาพ มีร้านค้า ร้านอาหาร สิ่งอำนวยควมสะดวกมากมาย เหมือนหมู่บ้านจริงๆ
มาดูแต่ละแพ็คเกจของ Dreamville ทุกแพ็คเกจใน Dreamville มีตั๋วเข้างาน 3 วันเต็ม และได้เข้า Gethering Pre party Tomorrowland ซึ่งเป็นแพ็คแกจที่โปรดปรานที่สุดของชาวต่างชาติ
Dreamville Magnificent Green คือแพ็คเกจ ที่ทีมงานจัดพื้นที่สนามหญ้าเปล่าให้เรา+ตั๋วเข้างานสามวัน โดยที่เราต้องนำเต๊นท์และอุปกรณ์ที่พักผ่อนไปกางเอง ซึ่งเป็นแพ็คเกจที่ดิบที่สุดคล้ายกับไปออกค่ายเขาชนไก่ เพราะพื้นที่จะแออัดไปด้วยเต๊นท์นับไม่ถ้วน แต่ข้อดีคือที่จะได้สร้างมิตรภาพใหม่ๆกับเพื่อนชาวต่างชาติที่เป็นมิตรได้ง่าย ราคาปี 2015 สนนอยู่ที่ 335 ยูโร สำหรับเข้างาน Regular และ554.75 ยูโร สำหรับเข้างานแบบ Comfort
Easy Tent 2 / 4 persons  แพ็คเกจนี้จะมีเต๊นท์ของทางงานกางไว้ให้เราไม่ต้องแบกไปเองและเราสามารถเข้าไปอยู่ได้เลย จะมีแบบ Regular ที่มีเต้นกับถุงนอนให้เฉยๆ และแบบ Fabulous ที่เขาจะปูพื้นไม้ใต้เต้นกันน้ำค้าง มีปลั๊กไฟให้เสียบ โซน terrace ในเต๊นท์ไว้เก็บกระเป๋า ล็อคเกอร์เก็บของ และเก้าอี้ปิกนิก ซึ่งแบบ easy tent จะมีขนาด 2 คนและ 4 คน
DreamLodge แพ็คเกจกระท่อมโดยจะดีกว่า Easy Tent ขึ้นมาเยอะพอสมควร พื้นยกสูง มีเตียงนอน มีที่นั่งชิล มีล็อคเกอร์ในตัวที่พัก
Cabana Package เป็นบ้านหลังเล็กๆ มีพื้นที่นั่งชิลแบบ Dreamlodge แต่อารมณ์แตกต่างกัน มีเตียงภายใน และพื้นที่สำหรับเก็บสัมภาระ
Exclusive Mansion แพ็คเกจนี้ดีที่สุดของที่พักใน Dreamville เพราะว่ามัน Exclusive สมชื่อสุดโดยจะเป็นแมนชั่นที่ built ขึ้นมาโดยเฉพาะพร้อมเฟอนิเจอร์ครบครัน มีห้องน้ำส่วนตัว มีสนามหญ้าส่วนตัว มีตู้เย็น มีรีเซพชั่นบริการ 24 ชั่วโมง มีห้องนอนสำหรับ 12 คน มีสระว่ายน้ำส่วนตัว มีบริกรส่วนตัว บริการนวดสปา และต้องส่งอีเมลติดต่อไปยังทาง Tomorrowland โดยตรงเพื่อขอจองเพราะไม่มีการ booking ผ่านหน้าเว็บ สนนราคาที่ 8แสนบาท – 1ล้านบาท โดยประมาณ
Friendship Garden แพ็คเกจนี้เป็นแพคเกจที่ถูกที่สุด และก็จะมีพื้นที่ส่วนตัวให้เราด้วยเป็นแพ็คเกจนี้ทีมงานจะกั้นพื้นที่สนามหญ้าเป็นล็อคๆให้สำหรับกลุ่มเพื่อน 10 คน มาตั้งเต๊นท์กันเอง แบบเป็นหมู่บ้านจะมีแบบ Regular และ Fabulous โดยแบบ Fabulous จะมีเก้าอี้นั่งพิคนิคมาให้เพิ่มอีก 10 ตัว
How To Book a Tickets
วิธีการจองตั๋ว ซึ่งจะมีการเปิดให้ 4 ช่วงด้วยกัน
1. Pre – Regis คือช่วงให้เรากรอกลงทะเบียนข้อมูลว่าเราต้องการไปและแบบแพ็คเกจไหนที่เราต้องการ ซึ่งช่วงนี้มีการแย่งชิงเหมือนกันเพราะทาง Tomorrowland จัดแคมเปญว่า 10 คนแรกของแต่ละประเทศที่ Register จะได้รับสิทธ์ 100 % ในการจองแพ็คเกจต่างๆเข้างานตามที่ Register ไป
2. Global Journey Sale คือช่วงที่ขายแพ็คเกจ global journey เป็นแพ็คเกจที่เรียกได้ว่าเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศโดย Tomrrowland จะปล่อยแพ็คเกจนี้ก่อนเพราะเขาจะยัดแพ็คเกจโน่นนี้นั้นให้เราเพราะเขาสามารถชาร์จค่าที่พักและเครื่องบินได้ จึงเป็นแพ็คเกจที่หมดช้าสุดเพราะด้วยเรื่องราคา แต่ถ้าใครไม่สนเรื่องเงินเนี่ยหละโอกาสดีที่สุดที่จะได้ไปร่วมงาน
3. Belgian Sale ประเทศไทยควรดูเป็นตัวอย่าง ด้วยความที่งานจัดที่ประเทศ Belgian เขาเลยให้สิทธิกับพลเมืองของเขาก่อน ซึ่งถ้าใครมีเพื่อนที่มีสัญชาติเบลเยียม ก็ถือว่าโชคดีมากๆ เพราะหนึ่งคนสามารถจองได้ 1 แพ็คเกจ
4. Worldwide Sale ช่วงนี้แหละคือเวลาของคุณทำบุญเยอะๆ บวก เน็ตที่แรงๆ และพอถึงเวลาที่ ทีมงานเปิดให้จองแบบ Worldwide ก็เข้าไปเลือกแพคเกจที่ปราถานาได้เลย และถ้าใครที่พลาดตรงนี้เท่ากับฝันจบทันทีเพราะที่นี้ไม่มีตั๋วผีออกมาแบบบ้านเราแน่นอนซึ่งโอกาสที่จะได้นั้นถือว่ายากพอสมควร
เห็นไหมและครับว่าการจะไปเหยียบและโบกธงที่ Tomorrowland มันยากเย็นขนาดไหนแต่ถ้ามันสามารถเกิดขึ้นจริงมันก็คงจะเป็นประสบการณ์ที่คุณไม่มีทางลืมแน่นอนในชีวิต สำหรับเพื่อนๆที่กำลังวางแผนกำลังจะเดินทางไปร่วมงานในปีหน้าเราก็หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถเตรียมตัวได้ง่ายขึ้น และถ้าเกิดปีหน้ามันยังไม่ได้ก็ลองในปีถัดไปถ้าไม่ได้อีก ก็ปีถัดๆไป มันต้องถึงวันของเราบ้างสักวันหละเหมือนซื้อหวยถ้าเราไม่หยุดซื้อสักวันก็คงต้องได้รางวัลที่หนึ่ง