คู่มือเริ่มต้นใช้งานสำหรับครอบครัว Anbernic RG35XX
อัปเดตล่าสุด: 26 ตุลาคม 2567 (ดูบันทึกการเปลี่ยนแปลงสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม)
อุปกรณ์จำลองเกมพกพารุ่นประหยัดของ Anbernic ที่ใช้ซีพียู Allwinner H700 เป็นการผสมผสานที่ยอดเยี่ยมระหว่างราคาที่จับต้องได้และประสิทธิภาพ คู่มือนี้จะช่วยให้คุณเริ่มต้นใช้งานอุปกรณ์จำลองเกมพกพาในตระกูลนี้ ซึ่งประกอบด้วย:
Anbernic RG35XX Plus
Anbernic RG35XX “2024”
Anbernic RG35XX H
Anbernic RG35XX SP
Anbernic RG28XX
Anbernic RG40XX H
Anbernic RG40XXV
Anbernic RG Cube XX
หมายเหตุ: หากคุณกำลังมองหา Anbernic RG35XX รุ่นดั้งเดิมคู่มือฉบับนั้นอยู่ที่นี่
สารบัญ
เลือกเครื่องเล่นเกมพกพา
หาซื้อได้ที่ไหน
การชาร์จและความปลอดภัย
อุปกรณ์เสริมที่แนะนำ
ROM และ BIOS
เลือกระบบปฏิบัติการ ระบบปฏิบัติการ มาตรฐาน
(Anbernic)
ระบบปฏิบัติการมาตรฐานที่ดัดแปลง
การปรับแต่งระบบปฏิบัติการมาตรฐานที่แนะนำ
KNULLI
muOS
MinUI
GarlicOS 2.0
ROCKNIX
Shaders, overlays และอื่นๆ
การดัดแปลงฮาร์ดแวร์
บันทึกการเปลี่ยนแปลง
เลือกอุปกรณ์พกพา
หนึ่งในจุดเด่นที่สุดของอุปกรณ์ตระกูล RG35XX คือดูเหมือนจะมีตัวเลือกที่เหมาะกับทุกคน อยากได้อะไรที่คล้ายกับ Game Boy ไหม? เลือก RG35XX Plus อยากได้แบบฝาพับและปุ่มกดจุบจิบ? เลือก SP ได้เลย อยากได้แบบพกพาสะดวก? เลือก RG28XX ส่วนตัวผมชอบ RG35XX H ที่สุด เพราะรู้สึกว่ามันใช้งานได้สะดวกที่สุดด้วยรูปทรงแนวนอน และยังมีลำโพงสเตอริโอและจอยสติ๊กแบบคู่ด้วย
ด้านล่างนี้คือวิดีโอของผมเกี่ยวกับอุปกรณ์พกพาแต่ละรุ่น รวมถึงความประทับใจแรกพบและรีวิวโดยละเอียด อุปกรณ์ทุกรุ่นสามารถส่งสัญญาณ HDMI ออกได้ แต่โปรดทราบว่ารุ่น RG28XX และ RG35XX “2024” ไม่มี Wi-Fi หรือ Bluetooth
Anbernic RG35XX Plus — ความประทับใจ // รีวิว
Anbernic RG35XX “2024” — รีวิว
Anbernic RG35XX H — ความประทับใจ // รีวิว
Anbernic RG35XX SP — ความประทับใจ // รีวิว
Anbernic RG28XX — รีวิว
Anbernic RG40XX H — ความประทับใจ // รีวิว
Anbernic RG40XXV — รีวิว
Anbernic RG Cube XX — รีวิว
ซื้อได้ที่ไหน
อุปกรณ์ตระกูล Anbernic RG35XX มีวางจำหน่ายอย่างแพร่หลายจากแหล่งต่างๆ
อุปกรณ์ขนาด 3.5 นิ้ว:
อุปกรณ์ขนาด 2.8 นิ้ว และ 4.0 นิ้ว:
| อาลีแอลิส | RG28XX | RG40XX H | RG40XXV | RG Cube XX |
| แอนเบอร์นิค | RG28XX | RG40XX H | RG40XXV | RG Cube XX |
| โกเกมกีค | RG28XX | RG40XX H | RG40XXV | RG Cube XX |
| คีปเรโทร | RG28XX | RG40XX H | RG40XXV | RG Cube XX |
| อเมซอน | RG28XX | RG40XX H | RG40XXV | RG Cube XX |
AliExpress : ถ้าคุณต้องการข้อเสนอที่ดีที่สุด ฉันแนะนำให้คุณเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ร้านบน AliExpress และรอช่วงลดราคาครั้งใหญ่เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าสูงสุด การซื้อโดยตรงจากร้าน Anbernic บน AliExpress มักจะได้ราคาที่ยุติธรรม แต่ก็มีร้านค้าดรอปชิปปิ้งอื่นๆ เช่น Cutesliving และ Ampown ที่ลดราคาลงมาเพื่อให้คุณได้ข้อเสนอที่ดียิ่งขึ้นไปอีก โปรดทราบว่าเนื่องจากสินค้าจัดส่งจากประเทศจีน โดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาประมาณสองสัปดาห์กว่าจะมาถึง
Anbernic : คุณสามารถซื้ออุปกรณ์ได้โดยตรงจาก Anbernic ขึ้นอยู่กับว่าอุปกรณ์นั้นมีวางจำหน่ายมานานแค่ไหน พวกเขาอาจมีบริการจัดส่งจากคลังสินค้าในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ราคาโดยทั่วไปจะสูงกว่าใน AliExpress และพวกเขาจะคิดค่าจัดส่งเพิ่มเติม
ผู้ขายแบบดรอปชิปปิ้ง : มีเว็บไซต์ของบุคคลที่สามที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Anbernic เช่น KeepRetro, GoGameGeek และ LITNXT พวกเขาอาจเสนอส่วนลด แต่โดยทั่วไปแล้วราคาจะสูงกว่า AliExpress หรือ Anbernic โดยตรง
Amazon : นอกจากนี้ยังมีผู้ขายอุปกรณ์ Anbernic บน Amazon ด้วย ราคาบน Amazon มักจะสูงกว่า AliExpress เสมอ แต่จะมีช่วงลดราคาเป็นระยะๆ ที่ราคาใกล้เคียงกับราคาบนเว็บไซต์ของ Anbernic และบางครั้งอาจถูกกว่า AliExpress ด้วยซ้ำ ข้อดีของ Amazon คือกระบวนการคืนสินค้า/ขอเงินคืนง่ายกว่า ในกรณีที่สินค้ามีข้อบกพร่อง และการจัดส่งก็รวดเร็วกว่า
การชาร์จและความปลอดภัย
อุปกรณ์ตระกูล RG*XX ขึ้นชื่อเรื่องราคาที่ถูกมาก แต่ก็หมายความว่าส่วนประกอบหลายอย่างก็มีราคาค่อนข้างถูกเช่นกัน ตัวอย่างที่สำคัญอย่างหนึ่งคือเรื่องการชาร์จไฟ แม้จะยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด แต่โดยรวมแล้วมีความเห็นตรงกันว่าอุปกรณ์เหล่านี้ขาดการควบคุมแรงดันไฟฟ้าที่เหมาะสม ซึ่งหมายความว่าที่ชาร์จเร็ว USB-C รุ่นใหม่ๆ (เช่นที่ใช้กับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่) อาจใช้งานไม่ได้กับอุปกรณ์เหล่านี้ เพราะไม่สามารถควบคุมสัญญาณได้อย่างถูกต้อง
มีรายงานเกี่ยวกับการชาร์จแบตเตอรี่เกินกำลัง (และอาจเป็นอันตราย) ในอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับอะแดปเตอร์ชาร์จหรือส่วนประกอบที่ชำรุดภายในตัวอุปกรณ์เอง ปัญหานี้เกิดขึ้นกับอุปกรณ์พกพาจากบริษัทอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงควรระมัดระวังเมื่อชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ราคาถูกใดๆ ก็ตาม
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ผมขอแนะนำให้ใช้สาย USB-A (เช่นเดียวกับที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ของคุณ) และอะแดปเตอร์ชาร์จที่ตรงกับสัญญาณการชาร์จเฉพาะที่อุปกรณ์ต้องการอุปกรณ์ RG*XX จะไม่มีอะแดปเตอร์ชาร์จมาให้ แต่ด้านหลังของอุปกรณ์จะมีสติกเกอร์หรือข้อความอื่นๆ ที่ระบุอินพุตของอะแดปเตอร์ที่ต้องการ ซึ่งจะมีลักษณะเช่น “5V => 1.5A” หรืออะไรที่คล้ายกันมาก เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ของคุณได้รับการชาร์จอย่างถูกต้อง ผมขอแนะนำให้ใช้อะแดปเตอร์ที่มีคุณสมบัติตรงตามนั้น และควรชาร์จอุปกรณ์ภายใต้การดูแลเท่านั้น (ตัวอย่างเช่น อย่าชาร์จข้ามคืน) นี่คือลิงก์ไปยังอะแดปเตอร์ชาร์จที่มีเอาต์พุต 5V 1.5A ที่อุปกรณ์ Anbernic ส่วนใหญ่ต้องการ
อุปกรณ์เสริมที่แนะนำ
อุปกรณ์ตระกูล RG35XX จะมีช่องเสียบการ์ด microSD สองช่อง ช่องแรกสำหรับระบบปฏิบัติการ และช่องที่สองโดยทั่วไปใช้สำหรับจัดเก็บเกมเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการที่คุณเลือก (จะกล่าวถึงในภายหลัง) คุณสามารถใช้การ์ดเดียวหรือสองการ์ดก็ได้ การ์ดที่มาพร้อมกับอุปกรณ์มักจะมีขนาด 64GB และบรรจุเกมไว้แล้ว และขึ้นอยู่กับสถานที่ที่คุณซื้ออุปกรณ์ อาจมีตัวเลือกให้ซื้อการ์ดที่สองที่บรรจุเกมเพิ่มเติมได้ ผมขอแนะนำให้เพิ่มคลัง ROM ของคุณเองแทน เพื่อสร้างประสบการณ์การเล่นเกมย้อนยุคที่สมบูรณ์แบบ และเนื่องจากเกมที่มากับการ์ดเหล่านี้มักจัดระเบียบไม่ดีหรือมีภูมิภาค/ภาษาที่ไม่ตรงกัน
ก่อนหน้านี้ Anbernic ใช้การ์ด microSD ราคาถูกทั่วไปสำหรับอุปกรณ์ของตน แต่เมื่อไม่นานมานี้ พวกเขาได้เปลี่ยนมาใช้การ์ด KIOXIA ซึ่งเป็นแบรนด์ย่อยของ Toshiba การ์ดเหล่านี้มีความน่าเชื่อถือและโดยทั่วไปสามารถใช้งานได้ในสถานการณ์ส่วนใหญ่ กฎทั่วไปคือ: หากอุปกรณ์ของคุณมาพร้อมกับการ์ด KIOXIA สีน้ำเงิน มันควรจะค่อนข้างน่าเชื่อถือ แต่ถ้าคุณได้การ์ด microSD สีดำทั่วไปมา มันจะมีโอกาสเสียได้ง่ายกว่า (โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณพยายามแฟลชเฟิร์มแวร์ลงไป)
โปรดทราบว่าเฟิร์มแวร์แบบกำหนดเองบางตัว (เช่น MinUI) ออกแบบมาให้ใช้งานทับบนการ์ดหน่วยความจำมาตรฐานที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ ในขณะที่บางตัวสามารถติดตั้งบนการ์ดหน่วยความจำใหม่ได้ หากคุณมีโอกาส ผมขอแนะนำให้ซื้อการ์ดหน่วยความจำหลายๆ แบบมาทดลองใช้ เพื่อจะได้ค้นหาระบบปฏิบัติการที่เหมาะสมกับคุณที่สุด
แต่ละระบบปฏิบัติการมีวิธีการติดตั้งที่แตกต่างกันเล็กน้อย: MinUI ออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกับการ์ดสองตัว ในขณะที่ระบบปฏิบัติการอื่นๆ สามารถใช้การ์ดเพียงตัวเดียวก็ได้ ดังนั้นสำหรับ MinUI ผมขอแนะนำให้ใช้การ์ดขนาด 16GB สำหรับระบบปฏิบัติการ และการ์ดขนาดใหญ่อีกตัวสำหรับเกม ส่วน Knulli หรือ muOS คุณสามารถใช้การ์ดขนาดใหญ่เพียงตัวเดียวสำหรับทั้งระบบปฏิบัติการและเกม หรือใช้การ์ดสองตัวก็ได้
โดยทั่วไปแล้ว ผมขอแนะนำการ์ดหน่วยความจำที่ระบุไว้ด้านล่าง เรียงตามลำดับความชอบ ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ดังนั้นควรติดตามโปรโมชั่นอยู่เสมอ การ์ดขนาด 128GB จะช่วยให้คุณโหลดเกม 8 บิตและ 16 บิตได้ทุกเกม รวมถึงเกมอาร์เคดเกือบทั้งหมดที่ใช้งานได้ และเกม PS1, Dreamcast, PSP และ Sega CD อีกหลายเกม (ระบบเหล่านี้มีขนาดไฟล์ใหญ่ที่สุด) การ์ดขนาด 256GB หรือ 512GB จะช่วยให้คุณจัดเก็บเกมขนาดใหญ่เหล่านั้นได้มากขึ้น แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะเกินความจำเป็นสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้
ในส่วนของรุ่น ("Extreme" กับ "Ultra" เป็นต้น) นั้นไม่สำคัญเท่าไหร่เมื่อพูดถึงการเล่นเกม การ์ดบางรุ่นอาจถ่ายโอนไฟล์ได้เร็วกว่า (เช่น เมื่อเพิ่ม ROM ลงในการ์ด) แต่ความแตกต่างนั้นแทบจะไม่มีนัยสำคัญ ดังนั้นควรเลือกซื้อการ์ดที่ตรงกับความต้องการและขนาดความจุของคุณมากที่สุดจะดีกว่า!
การ์ด 16GB:
SanDisk Ultra,
SanDisk Industrial
การ์ด 32GB:
Samsung Pro Endurance
, SanDisk Extreme
การ์ด 64GB:
Samsung Pro Endurance
, SanDisk Extreme
การ์ด 128GB:
Samsung EVO Select
SanDisk Ultra
microSD 256GB:
SanDisk Ultra
Samsung EVO Select
Samsung Pro Plus
microSD 512GB:
SanDisk Ultra
Samsung EVO Select
Samsung Pro Plus
โปรดทราบว่าเมื่ออัปเกรดเฟิร์มแวร์การ์ดของคุณเป็นการ์ดใหม่ คุณไม่สามารถคัดลอกและวางไฟล์ของคุณลงในการ์ดใหม่ได้โดยตรงเนื่องจากการ์ดเดิมมีพาร์ติชั่นเฉพาะหลายส่วนที่จำเป็นสำหรับการทำงานของระบบ แทนที่จะทำเช่นนั้น ผมขอแนะนำให้แฟลช ระบบปฏิบัติการ Modded Stock OSลงในการ์ดใหม่ หรือระบบปฏิบัติการแบบกำหนดเอง เช่นKNULLIหรือmuOS (รายละเอียดทั้งหมดจะกล่าวถึงในภายหลังในคู่มือนี้)
นอกจากนี้ อุปกรณ์เหล่านี้ยังสามารถใช้เป็นเครื่องเล่นเกมคอนโซลจำลองได้ด้วย เนื่องจากมีฟังก์ชันเอาต์พุต HDMI และสามารถเชื่อมต่อกับจอยควบคุมผ่านบลูทูธหรือ USB ได้ อะแดปเตอร์ HDMI มีขนาดเล็กกว่าขนาดมาตรฐาน ดังนั้นคุณอาจต้องหาซื้อสาย HDMI ขนาดเล็กแบบ นี้หรืออะแดปเตอร์ HDMI ขนาดเล็กเพื่อใช้กับสายที่มีอยู่แล้ว
ถ้าคุณไม่มีตัวอ่าน microSD เป็น USB ที่ดีๆ สัก ตัว คุณอาจต้องพิจารณาซื้อสักตัว อะแดปเตอร์คุณภาพดีอย่างเช่นของ Anker ตัวนี้จะช่วยให้คุณถ่ายโอนข้อมูลได้เร็ว และจะไม่ทำให้ข้อมูลใน microSD การ์ดเสียหาย นอกจากนี้ยังมีอะแดปเตอร์ USB-C/A รุ่นใหม่ ล่าสุดวางจำหน่ายแล้วด้วย!
อุปกรณ์ RG35XX ส่วนใหญ่สามารถเชื่อมต่อกับคอนโทรลเลอร์ Bluetooth ได้เช่นกัน รุ่น RG28XX และ RG35XX “2024” ไม่มี Bluetooth แต่รองรับการเชื่อมต่อคอนโทรลเลอร์ผ่านพอร์ต “USB/OTG” ผมแนะนำคอนโทรลเลอร์ 8bitdo SN30 Proซึ่งราคาประมาณ 40 ดอลลาร์ และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย
ไฟล์ ROM และ BIOS
เมื่อคุณตั้งค่าอุปกรณ์ ควรสร้างคลัง ROM ของคุณเองเสมอ วิธีนี้จะช่วยให้คุณคัดสรรรายการเกมของคุณและหาแหล่งที่มาของเกมได้เอง อุปกรณ์เหล่านี้หลายเครื่องจะมีเกมที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า แต่เกมเหล่านั้นมักจะจัดเรียงไม่ดี ใช้ภาษาที่ไม่ถูกต้อง และมีที่มาไม่น่าเชื่อถือ หากคุณต้องการดัมพ์ตลับเกมย้อนยุคของคุณเอง ผมขอแนะนำเครื่องอ่านตลับเกม Save the Hero Buildersซึ่งจะช่วยให้คุณดึงไฟล์ ROM จากระบบเกมย้อนยุคยอดนิยมส่วนใหญ่ได้และดึงไฟล์เซฟของคุณไปพร้อมกันด้วย ไฟล์ ROM และ BIOS มีลิขสิทธิ์และไม่เผยแพร่ในเว็บไซต์นี้ นี่คือรายการระบบเกมโดยทั่วไปที่คุณสามารถเล่นได้บนอุปกรณ์ตระกูล RG35XX (ระบบที่รองรับจริงจะแตกต่างกันไปตามระบบปฏิบัติการ) ระบบที่มีเครื่องหมายดอกจันกำกับไว้ อาจไม่สามารถเล่นทุกเกมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นประสิทธิภาพอาจแตกต่างกันไป
เครื่องเล่นเกมคอนโซล:
Panasonic 3DO *
Atari 2600/5200/7800
Atari Jaguar *
Colecovision
PC Engine (TurboGrafx-16)
PC Engine CD (TurboGrafx-CD)
Nintendo Entertainment System
Famicom Disk System
Super Nintendo
Nintendo 64 *
Sega Master System
Sega Genesis / CD / 32X
Sega Saturn *
Sega Dreamcast *
Neo-Geo / CD
NEC PC-FX
Sony PlayStation
เครื่องเล่นเกมพกพา:
Atari Lynx
Game and Watch
Nintendo Game Boy
Nintendo Game Boy Color
Nintendo Game Boy Advance
Nintendo DS
Nintendo Virtual Boy
Pokemon Mini
Sega Game Gear
Neo-Geo Pocket / Color
Sony Playstation Portable *
Wonderswan / Color
เครื่องเล่นเกมแฟนตาซี:
Pico-8
Tic-80
คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล:
Amiga
Amstrad CPC
Atari ST
Commodore 64 (และ C16/Plus4/C128)
Intellivision
MSX
PC (DOSBOX)
ScummVM
ZX Spectrum
ระบบเกมอาร์เคด:
MAME 2003-Plus
Final Burn Neo
Atomiswave *
Naomi *
เมื่อดาวน์โหลดไฟล์ ROM ผมแนะนำให้ใช้ รูปแบบการตั้งชื่อ "No-Intro"ซึ่งเป็นรูปแบบการตั้งชื่อมาตรฐานที่ใช้สำหรับชุด ROM ภายใน RetroArch และชุมชนจำลองเกมอื่นๆ การใช้การตั้งชื่อแบบไม่มี Intro จะช่วยให้คุณได้รับภาพปกเกมโดยอัตโนมัติเมื่อคุณโหลดเกมและดึงข้อมูลมีเดียของเกม หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับวิธีการตั้งชื่อเกม ผมแนะนำให้ตรวจสอบ ไดเร็กทอรีภาพขนาดย่อของ Libretroหากชื่อเกมของคุณตรงกับชื่อภาพขนาดย่อที่พบในไดเร็กทอรีนี้ โอกาสที่มันจะดาวน์โหลดมีเดียได้อย่างถูกต้องก็จะสูงขึ้น
นอกจากนี้ ส่วนประกอบสำคัญของคลัง ROM คือการดูแลรักษาไฟล์ BIOSไฟล์ BIOS เป็นไฟล์ระบบที่จำเป็นสำหรับโปรแกรมจำลองบางตัว (GBA, Sega CD หรือ PS1) และมีประโยชน์ในการปรับปรุงความแม่นยำกับระบบอื่นๆ ไฟล์เหล่านี้มีลิขสิทธิ์ ดังนั้นคุณต้องค้นหาด้วยตนเองข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไฟล์ BIOS สามารถดู ได้ที่นี่
ต่อไปนี้คือรายชื่อไฟล์ BIOS ที่ใช้กันทั่วไป:
เกมบอย (สำหรับโลโก้บูต):
gb_bios.bin
เกมบอยคัลเลอร์ (สำหรับโลโก้บูต):
gbc_bios.bin
เกมบอยแอดวานซ์ :
gba_bios.bin
ระบบดิสก์แฟมิคอม :
disksys.rom
นีโอจีโอ :
neogeo.zip
เซกาซีดี :
bios_CD_E.bin
bios_CD_J.bin
bios_CD_U.bin
TURBOGRAFX-CD :
syscard1.pce
syscard2.pce
syscard3.pce
PLAYSTATION 1 :
scph5501.bin
psxonpsp660.bin (MinUI)
SATURN :
saturn_bios.bin
DREAMCAST :
dc_boot.bin
naomi.zip (Naomi)
awbios.zip (Atomiswave)
ตำแหน่งของไฟล์ ROM และ BIOS บนการ์ด microSD ของคุณจะขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการที่คุณใช้ เราจะกล่าวถึงแต่ละส่วนในหัวข้อที่เกี่ยวข้องต่อไป
เลือกระบบปฏิบัติการ
มีระบบปฏิบัติการให้เลือกหลากหลายสำหรับอุปกรณ์เหล่านี้ ตั้งแต่ระบบปฏิบัติการเริ่มต้น ("stock") ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ ไปจนถึง "เฟิร์มแวร์แบบกำหนดเอง" ที่พัฒนาโดยชุมชน ด้านล่างนี้คือรายละเอียดของแต่ละตัวเลือก พร้อมข้อดีและข้อเสีย โดยสรุปแล้ว ผมไม่คิดว่าระบบปฏิบัติการใดจะสมบูรณ์แบบ แต่แต่ละระบบก็มีจุดเด่นที่ยอดเยี่ยมของตัวเอง
ข้อดีที่สุดของเฟิร์มแวร์ตัวเลือกเหล่านี้คือทั้งหมดถูกจัดเก็บไว้บนการ์ด microSD ดังนั้นคุณสามารถสลับใช้งานระหว่างเฟิร์มแวร์ต่างๆ ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์อย่างถาวร ดังนั้นจริงๆ แล้ว ค่าใช้จ่ายเดียวของคุณเมื่อลองใช้เฟิร์มแวร์แต่ละตัวเลือกก็คือ คุณอาจต้องมีการ์ด microSD หลายใบเพื่อสลับใช้งานระหว่างกัน
หากคุณไม่อยากอ่านรายละเอียดและเลือกเฟิร์มแวร์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ นี่คือคำแนะนำทั่วไปของผม:
- ระดับเริ่มต้น : ระบบปฏิบัติการมาตรฐานนั้นเหมาะสมสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่ มีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น และคุณสามารถสนุกกับเกมที่มาพร้อมกับการ์ด หรือเพิ่มเกมของคุณเองได้อย่างง่ายดายโดยการลาก/วางลงในการ์ด ฟังก์ชันหลักทั้งหมด เช่น Wi-Fi, Bluetooth, HDMI ฯลฯ ใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการมาตรฐาน
- มือใหม่ : ถ้าคุณชอบระบบปฏิบัติการดั้งเดิม แต่ต้องการปรับปรุงฟังก์ชันบางอย่าง หรือต้องการสร้างการ์ดสำรอง ผมขอแนะนำให้ลองดูระบบปฏิบัติการดั้งเดิมแบบ "ดัดแปลง" ซึ่งสามารถอัปเกรดได้ง่ายๆ ด้วยการลากและวาง หรือคุณสามารถแฟลชลงในการ์ดใหม่เป็นสำเนาที่สองได้
- มินิมอลลิสต์ : หากคุณต้องการระบบปฏิบัติการที่ "ไม่รบกวน" เพื่อให้คุณสามารถเปิดเกมได้อย่างราบรื่นโดยไม่มีสิ่งรบกวน ลองดู MinUI
- ระดับกลาง : เมื่อคุณพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่โลกของระบบปฏิบัติการแบบกำหนดเองแล้ว ฉันขอแนะนำ KNULLI ซึ่งมีอินเทอร์เฟซที่สวยงามบนพื้นฐาน EmulationStation และมีคุณสมบัติมากมาย เช่น โปรแกรมรักษาหน้าจอ โปรแกรมดาวน์โหลดธีม การดึงข้อมูลสื่อในตัว และอื่นๆ อีกมากมาย
- นักปรับแต่ง : หากคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโปรแกรมจำลองเกมพกพา และชื่นชอบประสิทธิภาพการจำลองเกมขั้นสูงที่สุด (และไม่รังเกียจที่จะปรับแต่งการตั้งค่าหรือแฟลชการ์ดใหม่ทุกครั้งที่มีการอัปเดต) muOS ก็เป็นตัวเลือกที่สนุกสนานมาก คุณสามารถปรับแต่งมันให้ตรงกับความต้องการของคุณได้อย่างแม่นยำด้วยการทำงานเพียงเล็กน้อย
สำหรับวิดีโอแนะนำเบื้องต้นที่โพสต์ไว้ด้านบน ผมได้แสดงวิธีการตั้งค่าทั้งแบบเดิม (และแบบดัดแปลง) และ KNULLI ส่วนแบบอื่นๆ นั้น มีคำแนะนำเป็นลายลักษณ์อักษรอยู่ด้านล่างเช่นกัน
ระบบปฏิบัติการมาตรฐานและการกระตุกเล็กน้อย : ผู้ใช้บางรายสังเกตว่าระบบปฏิบัติการมาตรฐานของ Anbernic บางเวอร์ชันมีการกระตุกเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเล่นเกมภายใน RetroArch ปัญหานี้อาจเกิดจากการตั้งค่าหน้าจอภายในเคอร์เนลหรือการตั้งค่าวิดีโอของ RetroArch ในขณะนี้ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่า "เวอร์ชันนี้มี เวอร์ชันนั้นไม่มี" แต่หนึ่งในวิธีแก้ปัญหาคือเฟิร์มแวร์แบบกำหนดเอง เช่น KNULLI และ muOS (รายละเอียดอยู่ด้านล่าง) ดูเหมือนจะไม่มีปัญหานี้ นอกจากนี้ MinUI ก็ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้นเช่นกัน ดังนั้นหากคุณประสบปัญหานี้บนอุปกรณ์ของคุณ วิธีแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุดอาจเป็นการลองใช้ทางเลือกเหล่านั้น
ระบบปฏิบัติการ Stock (Anbernic)
คำแนะนำสำหรับการติดตั้งการ์ด microSD: ใช้การ์ดเดียว (64GB ขึ้นไป)
อุปกรณ์ RG35XX จะมาพร้อมกับการ์ดหน่วยความจำ 64GB ที่มีระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด ระบบปฏิบัติการนี้ค่อนข้างดีทีเดียว แม้ว่าจะยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้างก็ตาม อย่างน้อยที่สุด มันจะมอบประสบการณ์ "เสียบปลั๊กแล้วเล่นได้เลย" ให้กับผู้ใช้ใหม่ ทำให้พวกเขาสามารถเล่นเกมได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่แกะกล่อง และมีตัวเลือกในการอัปเกรดในภายหลัง
ข้อดี:
- มาพร้อมกับตัวเครื่อง
- สามารถอัปเกรดได้ (ดูรายละเอียดด้านล่าง)
- ฟังก์ชันปิดเครื่อง/บันทึกอย่างรวดเร็ว
- RG35XXSP มีตัวรองรับฝาปิดสำหรับโหมดพักเครื่อง/ปิดเครื่อง
- เชเดอร์/กราฟิกที่กำหนดค่าไว้ล่วงหน้า
- ประสิทธิภาพดี
- WiFi/บลูทูธ/HDMI ใช้งานได้
- ปุ่มสลับทิศทาง/จอยสติ๊กสำหรับอุปกรณ์ที่ไม่มีจอยสติ๊ก
ข้อเสีย:
- อินเทอร์เฟซผู้ใช้ใช้งานยาก (ส่วน "ห้องเกม" แทบจะไม่มีประโยชน์เลย)
- ไม่มีการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจาก PortMaster
- ไม่มี Pico-8 ดั้งเดิม
- มีเสียง "ป๊อป" จากลำโพงเมื่อเริ่ม/ออกจากเกม
- ตัวเลือกการกำหนดค่าธีมมีจำกัด
- ต้องติดตั้งสื่อ/ภาพปกด้วยตนเอง
- อาการกระตุกเล็กน้อยที่อาจเกิดขึ้น
ROM และ BIOS:พาร์ติชั่นหลักของ microSD card ที่คุณต้องเข้าถึงใน Stock OS จะมีชื่อว่า “NO NAME” หรือ “ROMS” ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์และเวอร์ชันเฟิร์มแวร์ของคุณ ไฟล์ ROM จะอยู่ในโฟลเดอร์ “Roms” ของการ์ด Stock OS และไฟล์ BIOS จะอยู่ในโฟลเดอร์ “bios” โดยควรจะมีไฟล์ที่จำเป็นอยู่แล้ว
ระบบปฏิบัติการนี้ใช้งานง่ายมาก โดยส่วนใหญ่ คุณจะต้องเข้าไปที่เกมของคุณผ่านเมนูที่สอง "RA Games" เลือกเครื่องของคุณ จากนั้นเลือกเกมที่คุณต้องการเล่น นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันรายการโปรด (กดปุ่ม START ขณะเลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่เกมเพื่อเพิ่มเป็นรายการโปรด) และคุณยังสามารถค้นหาเกมหรือดูประวัติการเล่นของคุณได้อีกด้วย ระบบปฏิบัติการพื้นฐานยังประกอบด้วยโปรแกรมเล่นเพลง โปรแกรมเล่นวิดีโอ และโปรแกรมอ่านอีบุ๊ก คุณสามารถเพิ่มไฟล์ของคุณลงในการ์ด SD ผ่านโฟลเดอร์ที่เกี่ยวข้อง (วิดีโอ เพลง ฯลฯ)
ระบบปฏิบัติการดั้งเดิมของคุณจะมีส่วน "แอป" อยู่ด้วย ตำแหน่งของส่วนนี้จะแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์และเวอร์ชันระบบปฏิบัติการ แต่โดยทั่วไปจะอยู่ในส่วน "เกม RA" หรือในศูนย์แอปเฉพาะในเมนูหลัก แอปที่สำคัญที่สุดแอปหนึ่งคือแอป Quick Shutdown อย่าลืมเปิดใช้งานตัวเลือกนี้ เมื่ออยู่ในเกม คุณสามารถแตะปุ่ม POWER เพื่อบันทึกความคืบหน้าและปิดเครื่องโดยอัตโนมัติ เมื่อเปิดเครื่องอีกครั้ง เกมจะกลับไปยังจุดที่คุณเล่นค้างไว้ ซึ่งสะดวกมาก สำหรับ RG35XXSP แอป Quick Shutdown จะถามว่าคุณต้องการปิดเครื่องหรือเข้าสู่โหมดสลีปเมื่อปิดฝาเครื่อง ผมแนะนำให้ปิดเครื่อง เนื่องจากระบบปฏิบัติการดั้งเดิมใช้พลังงานในโหมดสลีปค่อนข้างมาก (ประมาณ 4% ของแบตเตอรี่ต่อชั่วโมง)
ขณะเล่นเกม คุณสามารถกดปุ่ม MENU เพื่อเรียกเมนูแบบรวดเร็วของ RetroArch ขึ้นมา เพื่อปรับแต่งการตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างละเอียดมากขึ้น หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำงานของ RetroArch โปรดดูคู่มือของฉันและฉันยังได้อธิบายการปรับแต่งที่แนะนำบางอย่างไว้ในส่วนด้านล่างนี้ด้วย
| ปุ่มลัด | การทำงาน |
| เมนู + R2 | เร่งไปข้างหน้า |
| เมนู + R1 | บันทึกสถานะ |
| เมนู + L1 | สถานะการโหลด |
| เมนู + Y | สลับอัตราเฟรม |
| เมนู + เริ่ม | ออกจากเกม |
| ปุ่มเมนู + ปุ่มปรับระดับเสียง | ปรับความสว่าง |
| เมนู | เมนูอีมูเลเตอร์ |
สลับการควบคุมแบบอนาล็อก/ดิจิทัล : เทคนิคเจ๋งๆ อย่างหนึ่งสำหรับอุปกรณ์ที่ไม่มีจอยสติ๊กแบบอนาล็อก (RG35XX Plus, RG28XX และ RG35XXSP) ในเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่นใหม่ๆ คุณสามารถแตะปุ่ม POWER ขณะเล่นเกมเพื่อสลับระหว่างการควบคุมด้วยปุ่มทิศทาง (D-pad) และจอยสติ๊กอนาล็อกด้านซ้าย วิธีนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเกม N64, Dreamcast และ PSP ที่ใช้การควบคุมด้วยจอยสติ๊กแบบอนาล็อก หากอุปกรณ์ของคุณใช้เฟิร์มแวร์เวอร์ชั่นเก่า คุณสามารถอัปเดตได้โดยใช้คำแนะนำด้านล่าง
คุณสามารถอัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุด (พร้อมการอัปเกรดเพิ่มเติมบางอย่าง) ได้อย่างง่ายดายโดยใช้ระบบปฏิบัติการดั้งเดิมที่ "ดัดแปลง" ซึ่งมีรายละเอียดอยู่ในส่วนถัดไปผมขอแนะนำอย่างยิ่ง เพราะจะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการอัปเดต
หากคุณทำเมมโมรี่การ์ดระบบปฏิบัติการหาย หรือต้องการอัปเกรดเป็นการ์ด SD รุ่นใหม่กว่า คุณสามารถดาวน์โหลดอิมเมจระบบปฏิบัติการดั้งเดิม (Stock OS) ใหม่ได้โดยตรงจาก Anbernic — แต่ไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้ เนื่องจากอิมเมจการ์ด SD ของพวกเขามีขนาด 64GB เต็ม ดังนั้นคุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและพื้นที่จัดเก็บเพียงพอสำหรับไฟล์ขนาดใหญ่เช่นนี้ หากคุณต้องการดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์อย่างเป็นทางการจาก Anbernic โปรดไปที่หน้านี้และดาวน์โหลดไฟล์เฟิร์มแวร์ที่ตรงกับอุปกรณ์ของคุณ จากนั้นคุณสามารถแฟลชอิมเมจนี้ไปยังการ์ด microSD ขนาด 64GB (หรือใหญ่กว่า) โดยใช้เครื่องมือเช่น Balena Etcher หรือ Rufus อิมเมจนี้จะไม่มีเกมสำหรับผลลัพธ์ที่ดีกว่า ฉันขอแนะนำให้ดาวน์โหลดและติดตั้งเวอร์ชัน "ดัดแปลง" ของระบบปฏิบัติการดั้งเดิม (Stock OS) ที่ดูแลโดยนักพัฒนา cbepx-me (ข้อมูลเพิ่มเติมด้านล่าง)
คำแนะนำสำหรับการติดตั้งการ์ด microSD: ใช้การ์ดเดียว (64GB ขึ้นไป)
นักพัฒนาcbepx-meได้ทำการผสานรวมการแก้ไขซอฟต์แวร์ของ Anbernic อย่างพิถีพิถันจนได้เป็นอิมเมจซอฟต์แวร์ที่สะอาดและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หากคุณต้องการใช้งานแบบเดิมต่อไป ผมขอแนะนำให้ใช้อิมเมจนี้ โซลูชันนี้สามารถใช้ในการแฟลชการ์ดใหม่หรืออัปเดตการ์ดเดิมของคุณได้
ข้อดี:
- ข้อดีทั้งหมดของระบบปฏิบัติการ Stock OS
- ไฟล์ติดตั้งมีขนาดเล็กกว่า (~2GB)
- สามารถใช้การ์ด microSD ขนาดใดก็ได้ (16GB ขึ้นไป)
- ติดตั้งและอัปเกรดได้ง่าย
- ตัวเลือกธีมเพิ่มเติม
- แอปเพิ่มเติม
ข้อเสีย:
- ข้อเสียของระบบปฏิบัติการเดิม
ติดตั้งบนการ์ด microSD ใหม่:แนะนำให้ติดตั้งอิมเมจนี้โดยใช้พีซี Windows เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ไป ที่หน้านี้ จากนั้นไปที่ลิงก์ Google Drive ที่พบในหน้านั้น คลิกที่โฟลเดอร์ที่ตรงกับอุปกรณ์ของคุณ จากนั้นไปที่ Stock OS Mod > OS Image > ไฟล์อิมเมจ “Base” เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้ว ให้ใช้Rufusเพื่อแฟลชไฟล์อิมเมจนี้ลงในการ์ด microSD ของคุณ หลังจากแฟลชเสร็จแล้ว ให้ใส่การ์ดลงในอุปกรณ์ของคุณ เปิดเครื่อง และปล่อยให้กระบวนการติดตั้งเสร็จสิ้น
เมื่อทำการแฟลชการ์ดใหม่ใน Windows ระบบจะสร้างพาร์ติชั่นเพิ่มเติม ซึ่งอาจทำให้มีหน้าต่างป๊อปอัพของ Windows ปรากฏขึ้นมา คุณสามารถเพิกเฉยต่อหน้าต่างเหล่านั้น หรือหากต้องการ คุณสามารถใช้ Disk Management เพื่อยกเลิกการกำหนดตัวอักษรไดรฟ์ให้กับพาร์ติชั่นเหล่านั้น เพื่อไม่ให้ปรากฏขึ้นมาอีก
อัปเดต microSD การ์ดเดิมของคุณ : ไปที่หน้านี้จากนั้นไปที่ลิงก์ Google Drive ที่อยู่ในหน้านั้น คลิกที่โฟลเดอร์ที่ตรงกับอุปกรณ์ของคุณ จากนั้นไปที่ Stock OS Mod > Update_Package > (ชื่อไฟล์อัปเกรด 7zip ที่ตรงกับอุปกรณ์ของคุณ) เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้ว ให้ใช้7zipเพื่อแตกไฟล์ จากนั้นค้นหาโฟลเดอร์ “APPS” ลากและวางเนื้อหาลงในโฟลเดอร์ Roms > APPS บน microSD การ์ดของคุณ รวมไฟล์หากมีข้อความแจ้งเตือน เสียบการ์ดเข้ากับอุปกรณ์ของคุณ จากนั้นไปที่ App Center > Apps (หรือ RA Games > Apps หากคุณใช้ Stock OS เวอร์ชันเก่ากว่า) คุณจะเห็นไฟล์ที่มีชื่อประมาณว่า “RG35xxX_Upgrade_202xxxxx” เรียกใช้แอปนี้ แล้วระบบจะอัปเกรดของคุณ
หมายเหตุสำคัญ: หากคุณกำลังใช้งานระบบปฏิบัติการ Anbernic เวอร์ชัน 32 บิต (เก่ากว่า) (ก่อนวันที่ 25 มิถุนายน 2024) คุณจะไม่สามารถอัปเดตระบบปฏิบัติการนั้นเป็นเวอร์ชัน 64 บิตที่ใหม่กว่าได้ คุณจะต้องติดตั้งระบบปฏิบัติการที่ดัดแปลงแล้วลงในการ์ด microSD ใหม่ตามรายละเอียดข้างต้น จากนั้นถ่ายโอนไฟล์เกมหรือไฟล์บันทึกเกมจากการ์ดเก่าไปยังการ์ดใหม่ของคุณ
การปรับแต่งระบบปฏิบัติการมาตรฐานที่แนะนำ
คำแนะนำเหล่านี้เขียนขึ้นโดยสมมติว่าคุณได้อัปเดตระบบปฏิบัติการดั้งเดิมเป็นเวอร์ชัน "ดัดแปลง" ในหัวข้อด้านบนแล้ว โดยใช้การตั้งค่าเริ่มต้นในส่วนอื่นๆ
เปลี่ยนโลโก้บูต : เสียบการ์ด SD เข้ากับคอมพิวเตอร์ แล้วเปิดพาร์ติชั่น “Volumn” คุณจะพบไฟล์ชื่อ “bootlogo.bmp” อยู่ข้างใน ให้แทนที่ไฟล์นี้ด้วยภาพขนาด 640 x 480 (bmp) ที่มีชื่อเดียวกันเพื่อเปลี่ยนโลโก้บูต! ภายในพาร์ติชั่น “ROMS” หากคุณเข้าไปที่โฟลเดอร์ anbernic > bootlogo คุณจะพบไฟล์ bmp ตัวอย่างมากมายที่คุณสามารถใช้ได้หากคุณไม่ต้องการสร้างเอง นอกจากนี้ยังมีคอลเลกชันโลโก้บูตให้เลือกใช้ที่นี่ด้วย
เปิดใช้งาน RetroAchievements:สำหรับอุปกรณ์ที่มี WiFi คุณสามารถตั้งค่า RetroAchievements สำหรับเกมส่วนใหญ่ได้ ขั้นแรก เชื่อมต่อ WiFi โดยไปที่ การตั้งค่า > การตั้งค่าเครือข่าย และเพิ่มข้อมูลประจำตัวของคุณ เมื่อเชื่อมต่อแล้ว ไปที่ การตั้งค่า > การตั้งค่า RetroArch > เริ่ม RetroArch เมื่อเข้าไปแล้ว ไปที่ การตั้งค่า > ความสำเร็จ และเพิ่มข้อมูลประจำตัว RetroArch ของคุณ คุณจะต้องสร้างบัญชีฟรีบนเว็บไซต์ของพวกเขาหากคุณยังไม่มี เมื่อคุณเพิ่มข้อมูลประจำตัวแล้ว ไปที่ เมนูหลัก > ไฟล์การกำหนดค่า > บันทึกการกำหนดค่าปัจจุบัน ตอนนี้คุณสามารถออกจาก RetroArch และคุณจะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ RetroAchievements ทุกครั้งที่คุณเริ่มเกม
การปรับปรุงคุณสมบัติทางภาพของระบบปฏิบัติการมาตรฐาน:โดยปกติแล้ว โอเวอร์เลย์และเชดเดอร์มาตรฐานสำหรับ GB, GBC, GBA และระบบเกมพกพาอื่นๆ นั้นยอดเยี่ยมมาก แต่สำหรับระบบเกมคอนโซลในบ้าน ผมพบว่าการตั้งค่าเชดเดอร์แบบสแกนไลน์เริ่มต้นนั้นเบลอเกินไป และโอเวอร์เลย์มาตรฐานก็เปลืองพื้นที่หน้าจออันมีค่า ดังนั้นสำหรับระบบอย่าง NES, SNES และ Genesis ผมขอแนะนำให้ปรับแต่งดังต่อไปนี้:
- ไปที่ การตั้งค่า > RetroArch แล้วเริ่ม RetroArch ไปที่ การตั้งค่า > ส่วนติดต่อผู้ใช้ > การมองเห็นรายการเมนู > เมนูแบบรวดเร็ว และตรวจสอบให้แน่ใจว่า “Shaders” และ “บันทึกการตั้งค่าหลัก” เปิดใช้งานอยู่ จากนั้นกลับไปยังเมนูหลักของ RetroArch แล้วเลือก ไฟล์การกำหนดค่า > บันทึกการกำหนดค่าปัจจุบัน แล้วออกจาก RetroArch
- เริ่มเกมจากเครื่องใดเครื่องหนึ่งเหล่านี้ แล้วกดปุ่ม M เพื่อเรียกเมนู RetroArch ด่วนขึ้นมา
- เลื่อนลงไปที่ Shaders > Load Preset > Interpolation แล้วเลือก shaders “Pixellate” หรือ “Sharp Bilinear 2x Prescale” ก็ได้ ทั้งสองแบบใช้ได้ผลดีในการปรับสมดุลพิกเซลและมีความคล้ายคลึงกันมาก
- หลังจากเลือกเชเดอร์แล้ว ระบบจะนำคุณกลับไปยังเมนูเชเดอร์หลัก เลือก บันทึกค่าที่ตั้งไว้ > บันทึกค่าที่ตั้งไว้หลัก
- กดปุ่ม B ค้างไว้จนกว่าจะเข้าสู่เมนูหลัก จากนั้นเลือก การตั้งค่า > ส่วนติดต่อผู้ใช้ > การแสดงผลซ้อนทับบนหน้าจอ > การแสดงผลซ้อนทับ > ปิด
- กดปุ่ม B ค้างไว้จนกว่าจะเข้าสู่เมนูหลัก จากนั้นเลือก การตั้งค่า > วิดีโอ > การปรับขนาด > อัตราส่วนภาพ > Core Provided
- กดปุ่ม B ค้างไว้จนกว่าจะถึงเมนูหลัก จากนั้นเลือก เมนูแบบรวดเร็ว > การตั้งค่าเพิ่มเติม > บันทึกการตั้งค่าหลัก
หากคุณต้องการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานด้านภาพบนระบบปฏิบัติการ Stock OS ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก นี่คือการปรับแต่งเพิ่มเติมที่แนะนำอีกสองสามอย่าง:
- การเพิ่มความละเอียดภาพสำหรับ PS1:เปิดเกม PS1 แล้วกดปุ่ม M เพื่อเรียกเมนูแบบรวดเร็วของ RetroArch ไปที่ Core Options > GPU Plugin แล้วเปิดใช้งานตัวเลือก “Enhanced Resolution” และ “Enhanced Resolution Speed Hack” การตั้งค่านี้จะแสดงผลภาพด้วยความละเอียด 480p เต็มรูปแบบสำหรับเกม (หากรองรับ) ระบบจะบันทึกการตั้งค่านี้สำหรับเกม PS1 ทุกเกมโดยอัตโนมัติ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพิ่มเติม
- การแก้ปัญหาภาพซ้อนบนหน้าจอ LCD ของ Game Boy: เปิดเกม GB หรือ GBC จากนั้นกดปุ่ม M เพื่อเรียกเมนู RetroArch ขึ้นมา ไปที่ Core Options > Interframe Blending แล้วตั้งค่าเป็น “LCD Ghosting (Accurate)” ในเมนูนี้ คุณยังสามารถปรับตัวเลือกการแสดงสีของ GB ได้ แต่ผมคิดว่าค่าเริ่มต้นนั้นดีอยู่แล้ว การตั้งค่านี้จะบันทึกไว้สำหรับเกม GB/GBC ทั้งหมดโดยอัตโนมัติ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพิ่มเติม
- การตั้งค่าโอเวอร์สแกนสำหรับเกม NES: เปิดเกม NES แล้วกดปุ่ม M เพื่อเรียกเมนูแบบรวดเร็วของ RetroArch ไปที่ Core Options > Video และตั้งค่าตัวเลือก “Crop Horizontal Overscan” ทั้งสองตัวเป็น 8 การทำเช่นนี้จะช่วยลดการกระพริบที่ด้านข้างของเกม NES ที่มีการเลื่อนภาพ เช่นSuper Mario Bros 3ระบบจะบันทึกการตั้งค่านี้สำหรับเกม NES ทั้งหมดโดยอัตโนมัติ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพิ่มเติม
เพิ่มภาพปก/ภาพมีเดีย : ผมแนะนำให้ใช้ Skraper เพื่อดึงภาพปกจากคลัง ROM ของคุณโดยตรง หากคุณไม่เคยใช้เครื่องมือนี้มาก่อน นี่คือ วิดีโอแนะนำสั้นๆ ที่ผมทำไว้เมื่อนานมาแล้วสำหรับระบบเก่าๆ แต่กระบวนการนี้จะใช้ได้กับระบบนี้เช่นกัน นอกจากนี้ คุณสามารถดาวน์โหลดภาพปกทีละภาพได้โดยใช้ คลังภาพขนาดย่อของ Libretro (ซึ่งจะมีประโยชน์หากคุณมีคลังเกมขนาดเล็ก) เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุณควรปรับขนาดภาพปกให้มีความกว้างไม่เกิน 300 พิกเซล เพื่อลดขนาดไฟล์ ระบบปฏิบัติการคาดหวังภาพที่มีอัตราส่วน 4:3 ดังนั้นหากคุณใช้ภาพปกมาตรฐาน ภาพอาจดูบิดเบี้ยว (ยกเว้นเกม SNES) หากใช้ Skraper คุณสามารถดึงภาพหน้าจอหรือตัวเลือก "miximage" แทนได้ ซึ่งโดยทั่วไปจะแสดงผลเป็นอัตราส่วน 4:3 หรือใกล้เคียงกัน ภาพปกจะต้องถูกเพิ่มลงในโฟลเดอร์เดียวกับ ROM ของคุณ แต่ในโฟลเดอร์ย่อยชื่อ "Imgs" หากคุณใช้การ์ด microSD มาตรฐาน คุณควรจะเห็นโฟลเดอร์นั้นและภาพบางส่วนอยู่ภายในแล้ว ชื่อไฟล์รูปภาพต้องตรงกับชื่อของ ROM
เพิ่มแอป YouTube : ใช่แล้ว คุณสามารถเพิ่มแอป YouTube ลงในระบบปฏิบัติการ Stock OS และ Stock OS ที่ปรับแต่งแล้วได้ โดยทำตามคำแนะนำง่ายๆ นี้
แนะนำให้ติดตั้งการ์ด microSD สองช่อง (16GB และ 64GB ขึ้นไป)
KNULLIเป็นระบบปฏิบัติการ Linux ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Batocera ซึ่งเป็นเฟิร์มแวร์ Linux แบบกำหนดเองที่ได้รับความนิยม ระบบปฏิบัติการนี้ได้นำเอาการพัฒนาและการปรับปรุงมาหลายปีมาประยุกต์ใช้ เพื่อมอบอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่สมบูรณ์และปรับแต่งได้สูง นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันการดึงข้อมูลจากสื่อสำหรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ ทำให้คุณสามารถสร้างสภาพแวดล้อมการใช้งานที่สวยงามและครบครันได้
ข้อดี:
- ส่วนหน้าของ EmulationStation
- การดึงข้อมูลสื่อ/ภาพปกกล่องจากอุปกรณ์
- ฟังก์ชันสกรีนเซฟเวอร์แบบโต้ตอบ
- โปรแกรมจำลอง RetroArch/แบบสแตนด์อโลนแบบรวม
- สถาปัตยกรรม 64 บิต
- การสนับสนุน Portmaster (มีจำกัด)
- รองรับ Pico-8 อย่างแท้จริง
- รองรับ WiFi/BT/HDMI (รวมถึงระบบเสียง Bluetooth)
- รองรับ WiFi ผ่าน USB (สำหรับรุ่น RG28XX และ RG35XX ปี 2024)
- ตัวเลือกการปิดเครื่องอย่างรวดเร็ว
- ที่รองรับฝาปิด RG35XXSP สำหรับการนอนหลับ
- ฟังก์ชันการนอนหลับใช้งานได้ (ทุกอุปกรณ์)
- รองรับการ์ด SD2/TF2 (ตัวที่สอง) ได้อย่างราบรื่น
- เอกสารประกอบที่ครบถ้วน
- ปุ่มสลับทิศทาง/จอยสติ๊กสำหรับอุปกรณ์ที่ไม่มีจอยสติ๊ก
- กระบวนการอัปเดตแบบลากและวาง
ROM และ BIOS:พาร์ติชั่นหลักของ microSD card ที่คุณจะต้องเข้าถึงใน KNULLI จะเรียกว่า SHARE; ภายในนั้น คุณจะพบโฟลเดอร์ชื่อ roms และ bios ซึ่งคุณสามารถเพิ่มไฟล์ของคุณได้ การเข้าถึงพาร์ติชั่น SHARE จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของคุณ ซึ่งเราจะกล่าวถึงในกรอบสีฟ้าเล็กๆ ด้านล่าง
ระบบโฟลเดอร์ของ Batocera : หากคุณต้องการความช่วยเหลือในการหาว่าโฟลเดอร์ใดตรงกับระบบใด หรือไฟล์ BIOS ที่จำเป็นสำหรับแต่ละระบบ โปรดตรวจสอบหน้า Batocera Systemsในวิกิของพวกเขา ซึ่งจะใช้ได้กับ KNULLI เช่นกัน
ติดตั้ง KNULLI: ขั้นตอนการติดตั้งค่อนข้างง่าย แต่จำเป็นต้องแฟลชการ์ด microSD ใหม่ มาเริ่มกันเลย
- เข้าไปที่หน้า GitHub releases ของ KNULLIแล้วดาวน์โหลดไฟล์ img.gz ที่ตรงกับอุปกรณ์ของคุณ
- ใช้โปรแกรมอย่างRufus (สำหรับ Windows) หรือBalena Etcher (สำหรับ Windows และ Mac) ในการเขียนไฟล์ img ลงในการ์ด microSD คุณสามารถเขียนลงในการ์ดขนาด 16GB หรือใหญ่กว่านั้นได้ หากคุณใช้การ์ดสองใบ ผมแนะนำให้ใช้ขนาด 16GB แต่ถ้าคุณใช้การ์ดใบเดียว คุณสามารถใช้ขนาดใดก็ได้ตามต้องการ (128GB เป็นขนาดมาตรฐานทั่วไป)
- หากคุณพบปัญหาใดๆ ในการแฟลชการ์ด คุณสามารถแตกไฟล์ img.gz ออกมาเป็นไฟล์ img ที่ไม่มีการบีบอัดโดยใช้เครื่องมืออย่าง7zipซึ่งจะช่วยให้การแฟลชมีเสถียรภาพมากขึ้น
- เมื่อการแฟลชเสร็จสมบูรณ์แล้ว ให้นำการ์ด SD ออกและใส่กลับเข้าไปในอุปกรณ์ของคุณ หากใช้การตั้งค่าแบบสองการ์ด คุณสามารถใส่การ์ดที่สองเข้าไปในอุปกรณ์ได้ในตอนนี้เช่นกัน การ์ดระบบปฏิบัติการจะเริ่มต้นทำงาน และคุณก็พร้อมที่จะเริ่มใช้งาน KNULLI ได้แล้ว
การตั้งค่าการ์ดสองใบ : คุณสามารถใช้การ์ด SD ใบที่สองเพื่อจัดเก็บไฟล์เกมแยกต่างหากจากระบบปฏิบัติการ การ์ดสามารถเป็นรูปแบบไฟล์ exFAT หรือ EXT4 ก็ได้ แต่ทีมงานแนะนำให้ใช้ EXT4 ( ข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ ) เพื่อความเข้ากันได้กับ PortMaster ที่ดีขึ้น ในการเริ่มต้น ให้บูต KNULLI โดยเสียบการ์ดใบที่สองไว้ จากนั้นไปที่เมนูหลัก > การตั้งค่าระบบ > ที่เก็บข้อมูล > อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และเปลี่ยนจากภายในเป็นการ์ดใบที่สอง รีสตาร์ทอุปกรณ์ ในระหว่างกระบวนการรีบูต ระบบจะเพิ่มโฟลเดอร์ที่จำเป็นลงในการ์ดใบที่สองของคุณ เมื่อรีบูตเสร็จแล้ว ให้ปิดอุปกรณ์และเพิ่มเกมของคุณ
สร้างพาร์ติชั่นไฟล์ exFAT:โดยค่าเริ่มต้น พาร์ติชั่นเก็บข้อมูลสำหรับ microSD การ์ดหลักของ KNULLI จะอยู่ในรูปแบบไฟล์ EXT4 ซึ่งสามารถอ่านได้เฉพาะเครื่อง Linux เท่านั้น การทำเช่นนี้เพื่อเพิ่มความเข้ากันได้กับเกม PortMaster บางเกม การมีรูปแบบไฟล์ EXT4 หมายความว่าคุณจะไม่สามารถลากและวางเกมของคุณลงในการ์ดจาก Windows หรือ Mac ได้โดยไม่ต้องใช้ซอฟต์แวร์ของบุคคลที่สาม คุณสามารถใช้การ์ด SD ตัวที่สอง (ตามรายละเอียดข้างต้น) หรือฟอร์แมตพาร์ติชั่นการ์ด SD1 ใหม่เป็น exFAT ซึ่งจะทำให้คุณสามารถลากและวางเกม/ไฟล์ BIOS ได้โดยตรงบน Windows และ Mac — แต่จะสูญเสียฟังก์ชัน PortMaster บางอย่างไป ( ข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ )
ในการฟอร์แมตพาร์ติชั่นเกมของคุณเป็น exFAT ให้เปิดเมนูหลักของ KNULLI โดยกดปุ่ม START จากนั้นไปที่ การตั้งค่าระบบ > ตัวเลือกสำหรับนักพัฒนาส่วนหน้า > ฟอร์แมตดิสก์ และทำตามคำแนะนำเพื่อฟอร์แมตพาร์ติชั่นเป็น exFAT ขอแนะนำให้คุณทำขั้นตอนนี้ก่อนที่จะเพิ่มไฟล์เกมใดๆ
หากคุณต้องการคงรูปแบบไฟล์ EXT4 ไว้ (และรองรับ PortMaster ได้อย่างเต็มที่) คุณสามารถถ่ายโอนไฟล์เกมของคุณผ่านการถ่ายโอนผ่านเครือข่ายได้วิธีนี้ค่อนข้างง่ายเมื่อคุณเข้าใจวิธีการแล้ว และมีคำแนะนำอย่างละเอียดอยู่ที่นี่ (และด้านล่าง)
เพิ่มเกมผ่านเครือข่าย : หากคุณใช้พาร์ติชั่น EXT4 มาตรฐานบนการ์ดเดียว คุณจะต้องใช้เครื่อง Linux ในการอ่านการ์ด SD หรือคุณจะต้องเพิ่มเกมผ่านการเชื่อมต่อเครือข่าย วิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้ Samba (SMB) ก่อนอื่น ให้ไปที่การตั้งค่าเครือข่ายบนอุปกรณ์ของคุณและเปิดใช้งาน WiFi จากนั้นเชื่อมต่อกับเครือข่ายท้องถิ่นของคุณ ตอนนี้มาเริ่มกันเลย:
- การเชื่อมต่อกับพีซี : เปิดหน้าต่าง Windows Explorer แล้วพิมพ์ “\\KNULLI” หรือ “\\192.168.86.XXX” ในแถบนำทาง โดยที่ XXX คือที่อยู่ IP เฉพาะของอุปกรณ์ของคุณ (ซึ่งคุณสามารถค้นหาได้ในการตั้งค่าเครือข่ายของอุปกรณ์เมื่อเชื่อมต่อกับ Wi-Fi แล้ว) เมื่อพยายามเปิดโฟลเดอร์ใดโฟลเดอร์หนึ่งที่ปรากฏขึ้น คุณอาจถูกขอให้ป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน คุณสามารถพิมพ์ “guest” เป็นชื่อผู้ใช้และเว้นช่องรหัสผ่านว่างไว้ หากคุณต้องการความปลอดภัยมากขึ้น คุณสามารถตั้งค่าชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่เหมาะสมได้ใน การตั้งค่าระบบ > ความปลอดภัย บนอุปกรณ์ของคุณ
- การเชื่อมต่อกับ Mac : เปิด Finder แล้วในแถบเมนูด้านบน เลือก Go > Connect to Server… และในแถบที่อยู่ปรากฏขึ้น ให้พิมพ์ “smb://KNULLI” หรือ “smb://192.168.86.XXX” โดยที่ XXX คือที่อยู่ IP ของอุปกรณ์ของคุณ คุณอาจต้องป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน คุณสามารถพิมพ์ “guest” เป็นชื่อผู้ใช้และเว้นช่องรหัสผ่านว่างไว้ หากคุณต้องการความปลอดภัยมากขึ้น คุณสามารถตั้งค่าชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่เหมาะสมได้ใน การตั้งค่าระบบ > ความปลอดภัย บนอุปกรณ์ของคุณ
- ตอนนี้คุณสามารถถ่ายโอนไฟล์เกมและไฟล์ BIOS บนคอมพิวเตอร์ของคุณแบบไร้สายได้แล้ว
คุณอาจพบปัญหาเกี่ยวกับการตั้งค่าปุ่มควบคุมหลังจากการติดตั้ง KNULLI ครั้งแรก หากเกิดปัญหานี้ ให้ไปที่ เมนูหลัก > การตั้งค่าปุ่มควบคุมและบลูทูธ > การตั้งค่าปุ่มควบคุม แล้วตั้งค่าปุ่มควบคุมใหม่
ไฟล์ BIOS หายไป : หากไฟล์ BIOS ของคุณไม่ตรงกับที่ KNULLI ต้องการ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนป๊อปอัพเกี่ยวกับไฟล์ BIOS ที่หายไป คุณสามารถไปที่ การตั้งค่าเกม > ตรวจสอบไฟล์ BIOS ที่หายไป เพื่อดูว่าความไม่ตรงกันคืออะไร และคุณสามารถแก้ไขได้จากที่นั่น นอกจากนี้ คุณสามารถปิดการตรวจสอบ BIOS ก่อนเริ่มเกมได้ ในกรณีที่ความไม่ตรงกันนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเล่นเกมของคุณ
อัปเดต KNULLI : ทีมงานกำลังพัฒนาการอัปเดตแบบ OTA (ไร้สาย) แต่สำหรับตอนนี้ การอัปเดตด้วยตนเองเป็นวิธีที่ดีที่สุด โชคดีที่มันค่อนข้างง่าย
- ไปที่เวอร์ชันล่าสุดของ KNULLIแล้วเลื่อนลงไปด้านล่างสุดของโพสต์ คุณจะพบส่วน "Assets" ดาวน์โหลดไฟล์ที่มีชื่อว่า "boot.tar.xz" ที่ตรงกับอุปกรณ์ของคุณ ไฟล์นี้จะมีขนาดประมาณ 2GB
- ใช้เครื่องมืออย่าง7zipในการแตกไฟล์ คุณจะพบไฟล์ชื่อ batocera.update อยู่ในโฟลเดอร์ “boot”
- เสียบการ์ด SD1 ของคุณ แล้วคุณจะพบพาร์ติชั่นชื่อ BATOCERA จากนั้นไปที่โฟลเดอร์ “boot” ภายในโฟลเดอร์นี้ คุณจะพบไฟล์ชื่อ batocera ลบไฟล์นี้ แล้วลาก/วางไฟล์ batocera.update ที่เราดาวน์โหลดไว้ก่อนหน้านี้ลงในโฟลเดอร์ boot นี้
- ถอดการ์ด SD ออก แล้วเสียบกลับเข้าไปในอุปกรณ์ของคุณ เมื่อบูตเครื่อง การติดตั้ง KNULLI ของคุณจะอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุด
ดึงข้อมูลหน้ากล่องเกม:หนึ่งในคุณสมบัติที่ดีที่สุดของ KNULLI คือความสามารถในการดึงข้อมูลหน้ากล่องเกมโดยตรงจากอุปกรณ์
- เริ่มต้นด้วยการเข้าไปที่ ScreenScraper และสร้างบัญชีฟรีหากคุณยังไม่มีบัญชี จดบันทึกข้อมูลการเข้าสู่ระบบของคุณไว้ด้วย
- บนอุปกรณ์ของคุณ ให้กดปุ่ม START เพื่อเปิดเมนูหลัก ไปที่ส่วน Scraper จากนั้นใน Scraper Settings > Account ให้เพิ่มชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของคุณ
- จากนั้น เลือกประเภทสื่อที่คุณต้องการดาวน์โหลด ผมชอบใช้ “Box 2D” เป็นแหล่งรูปภาพ และผมก็เปิดใช้งานตัวเลือก “Scrape Videos” ด้วย ส่วนตัวเลือกอื่นๆ ผมปล่อยว่างไว้
- เมื่อคุณพร้อมที่จะดึงข้อมูลแล้ว ให้เลือกปุ่ม “ดึงข้อมูลตอนนี้” ที่ด้านล่างของเมนูหลักของโปรแกรมดึงข้อมูล ระยะเวลาในการดึงข้อมูลอาจใช้เวลาสักครู่ ขึ้นอยู่กับขนาดของคลังข้อมูลของคุณ เมื่อเสร็จแล้ว ให้ไปที่เมนูหลัก > การตั้งค่าเกม > อัปเดตรายการเกม เพื่อดูสื่อใหม่
โปรแกรมรักษาหน้าจอ: หลังจากดึงข้อมูลภาพหน้าปก/สื่อแล้ว คุณสามารถใช้ฟังก์ชันโปรแกรมรักษาหน้าจอได้ กดปุ่ม START เพื่อเปิดเมนู KNULLI จากนั้นไปที่ การตั้งค่า UI > การตั้งค่าโปรแกรมรักษาหน้าจอ ที่นี่คุณสามารถตั้งค่าพฤติกรรมโปรแกรมรักษาหน้าจอ > วิดีโอแบบสุ่ม ตอนนี้หากคุณปล่อยอุปกรณ์ไว้เฉยๆ เป็นเวลา 5 นาทีขณะอยู่ในเมนูหลัก วิดีโอจะเริ่มปรากฏขึ้น คุณยังสามารถเริ่มโปรแกรมรักษาหน้าจอได้โดยการกดปุ่ม SELECT ขณะอยู่ในเมนูหลัก ขณะที่วิดีโอกำลังเล่นอยู่ คุณสามารถกดปุ่ม SELECT เพื่อไปยังวิดีโอถัดไป หรือกดปุ่ม START เพื่อเริ่มเล่นเกมนั้น
PortMaster : แอปพลิเคชันที่ยอดเยี่ยมนี้ติดตั้งอยู่ใน KNULLI แล้ว คุณสามารถค้นหาได้ในส่วน "พอร์ต" ของเมนู แอปนี้ต้องการการเชื่อมต่อ Wi-Fi ในการใช้งาน ไม่ใช่ทุกเกมของ PortMaster จะใช้งานได้บน KNULLI แต่หลายเกมก็ใช้งานได้ หากต้องการอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PortMaster โปรดดูที่เว็บไซต์ของพวกเขาใน KNULLI คุณจะพบ PortMaster ในส่วน "พอร์ต" ในขั้นต้นคุณจะต้องติดตั้งแอปก่อน จากนั้นคุณจึงจะสามารถเรียกใช้งานได้
การเพิ่มเกม Pico-8 ผ่านแอปพลิเคชันดั้งเดิม : สามารถเล่นเกม Pico-8 ผ่านแอปพลิเคชันดั้งเดิมได้ แต่เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนกว่าเมื่อเทียบกับตัวเลือก OS อื่นๆ เช่น muOS ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการตั้งค่าได้ที่นี่
| ปุ่มลัด | การทำงาน |
| เมนู + ขวา (ปุ่มควบคุมทิศทาง) | เร่งไปข้างหน้า |
| เมนู + Y | บันทึกสถานะอย่างรวดเร็ว |
| เมนู + X | สถานะการโหลดอย่างรวดเร็ว |
| เมนู + บี | เมนูอีมูเลเตอร์ |
| เมนู + เริ่ม | ออกจากเกม |
| ปุ่มเมนู + ปุ่มปรับระดับเสียง | ปรับความสว่าง |
| เมนู + พลังงาน | ปิดเครื่องอย่างรวดเร็ว |
| พลังงาน (แตะ) | นอน |
ปุ่มลัดของ KNULLI : ดูตารางด้านบนสำหรับปุ่มลัดที่สำคัญ ( หากต้องการดูตารางแบบเต็ม สามารถดูได้ที่นี่ ) นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมในเว็บไซต์ของ KNULLIด้วย โปรดทราบว่าถึงแม้ KNULLI จะมีตัวเลือกการปิดเครื่องอย่างรวดเร็ว (เมนู + ปุ่มเปิด/ปิด) แต่จะไม่ทำการบันทึกสถานะอัตโนมัติ หรือบูตกลับเข้าเกมของคุณเมื่อคุณปิดเครื่อง นี่เป็นเพียงวิธีปิดเครื่องอย่างรวดเร็วแทนการกลับไปที่เมนูหลัก ดังนั้นหากคุณจะใช้ฟังก์ชันนี้และต้องการบันทึกความคืบหน้าก่อน ให้กด เมนู + Y เพื่อบันทึกอย่างรวดเร็ว จากนั้นปิดเครื่อง เมื่อคุณเปิดเครื่องอีกครั้ง ให้เริ่มเกมของคุณ และกด เมนู + X เพื่อโหลดการบันทึกอย่างรวดเร็ว การปรับแต่งปุ่มลัดใน KNULLI นั้นเป็นไปได้ แต่เป็นหัวข้อขั้นสูงกว่า ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้าวิกิของ Batoceraเนื่องจากขั้นตอนเหมือนกัน
เคล็ดลับและเทคนิคเพิ่มเติม:
- เมื่อเริ่มต้นใช้งาน KNULLI ครั้งแรก คุณจะได้ยินเสียงเพลงประกอบ หากต้องการปิดเสียง ให้ไปที่ การตั้งค่าเสียง > เพลงประกอบ > ปิด จากนั้นออกจากเมนูเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล
- จะมีเกมฟรีแวร์จำนวนหนึ่งติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์เมื่อคุณติดตั้งครั้งแรก หากต้องการลบเกมเหล่านั้น ให้ไปที่ส่วน "เกมทั้งหมด" ในเมนูหลัก จากนั้นกดปุ่ม A ค้างไว้เพื่อเปิดเมนูย่อย แล้วเลือกที่จะลบแต่ละเกม
- HDMI ใช้งานได้ แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรเสียบสายหลังจากที่อุปกรณ์บูตเครื่องเสร็จแล้ว
- KNULLI ยังสามารถใช้แพ็ก “Perfect Overlays” ที่ออกแบบมาสำหรับ muOS ได้ด้วย หากคุณต้องการเพิ่มโอเวอร์เลย์พิเศษให้กับเกม GB/GBC/GBA ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในส่วน “Configure Overlays” ของหัวข้อ muOS ด้านล่าง ควรวางแพ็กโอเวอร์เลย์ไว้ใน share > system > configs > retroarch > overlays (ใช้ SSH หรือ SFTP ในการเข้าถึงตำแหน่งนี้ หรือย้ายไฟล์โดยใช้เครื่องมือจัดการไฟล์ในตัวของ KNULLI)
- โปรดทราบว่า หากคุณพบปัญหาในการบันทึกค่าพรีเซ็ตเชเดอร์ภายใต้เมนู RetroArch Quick Menu ให้ลองไปที่เมนูหลัก KNULLI > การตั้งค่าเกม > การเรนเดอร์เกมและเชเดอร์ > ชุดเชเดอร์ > ไม่มี วิธีนี้จะลบค่าพรีเซ็ตแบบทั่วโลกออก เพื่อให้ค่าพรีเซ็ตเชเดอร์ต่อคอร์ของคุณทำงานได้อย่างถูกต้อง
แนะนำให้ติดตั้งการ์ด microSD สองช่อง (16GB และ 64GB ขึ้นไป)
muOS (เดิมชื่อ MustardOS) เป็นระบบปฏิบัติการแบบกำหนดเองที่เรียบง่ายแต่ทรงประสิทธิภาพอย่างน่าประหลาดใจสำหรับอุปกรณ์ตระกูล RG35XX (รวมถึงเครื่องเล่นเกมพกพา RG35XX รุ่นดั้งเดิมด้วย) ในบรรดาซอฟต์แวร์ที่พัฒนาโดยชุมชนทั้งหมด ซอฟต์แวร์นี้เหมาะที่สุดสำหรับผู้ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและผู้ที่ชอบดัดแปลง และเมื่อคุณเข้าใจวิธีการใช้งานแล้ว คุณจะสามารถปลดล็อกศักยภาพของอุปกรณ์พกพาเหล่านี้ได้อย่างแท้จริง
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ผมขอแนะนำให้ใช้การ์ดสองใบร่วมกับ muOS เพราะการอัปเดตระบบปฏิบัติการนี้จำเป็นต้องแฟลชการ์ด SD1 ใหม่
ข้อดี:
- อินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่เรียบง่าย
- เวลาบูตเครื่องเร็วที่สุด (~11 วินาที)
- อนุญาตให้ตั้งชื่อโฟลเดอร์แบบไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
- สถาปัตยกรรม 64 บิต ประสิทธิภาพที่ได้รับการปรับแต่ง
- การดึงข้อมูลสื่อ/ภาพปกกล่องจากอุปกรณ์
- โปรแกรมจำลอง RetroArch/แบบสแตนด์อโลนแบบรวม
- การสนับสนุนจาก Portmaster (และมีคลังข้อมูลที่ใหญ่ที่สุด)
- รองรับ Pico-8 โดยตรง (และตั้งค่าได้ง่ายที่สุด)
- รองรับ WiFi/HDMI
- รองรับการจัดเก็บข้อมูลผ่าน USB (โดย Content Explorer)
- รองรับการ์ด SD2/TF2 (ตัวที่สอง) ได้อย่างราบรื่น
- ตัวเลือกการปรับอุณหภูมิสี
- เอกสารประกอบที่ครบถ้วน
- แหล่งรวมธีมที่ยอดเยี่ยม
- ฟังก์ชันพักเครื่อง/ปิดเครื่องที่ปรับแต่งได้
- RG35XXSP มีตัวรองรับฝาปิดสำหรับโหมดพักเครื่อง/ปิดเครื่อง
- ปุ่มสลับทิศทาง/จอยสติ๊กสำหรับอุปกรณ์ที่ไม่มีจอยสติ๊ก
- แก้ไขปัญหาการล็อกแกนอนาล็อกหลัก
ข้อเสีย:
- ยังไม่รองรับบลูทูธ (ในขณะนี้)
- ต้องติดตั้งสื่อ/ภาพปกด้วยตนเอง
การอัปเดตจำเป็นต้องทำการแฟลชการ์ด SD1 ใหม่(ดูรายละเอียดการอัปเดตด้านล่าง)
ติดตั้ง MUOS : ดาวน์โหลดไฟล์ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุดจากเว็บไซต์ muOSทีมงานแนะนำให้ ใช้ Raspberry Pi Imagerในการแฟลชไฟล์ภาพที่ดาวน์โหลดมาซึ่งสามารถใช้งานได้บน Windows, Mac และ Linux เมื่อแฟลชการ์ดเสร็จแล้ว ให้เสียบการ์ดเข้าไปในอุปกรณ์และเปิดเครื่อง การติดตั้งครั้งแรกนี้อาจใช้เวลานานพอสมควร เมื่อเสร็จแล้ว ให้ปิดเครื่องผ่านเมนู จากนั้นเราก็สามารถเพิ่มไฟล์เกมได้
ไฟล์ ROM และ BIOS:ไฟล์ BIOS จะต้องอยู่ใน microSD การ์ดใบแรก (หรือใบที่สองหากคุณใช้ตัวเลือก “Migrate to SD2” ตามที่อธิบายไว้ในวิดีโอข้างต้น) ในโฟลเดอร์ MUOS > bios โปรดทราบว่าในวิดีโอข้างต้น ผมได้กล่าวถึงการวางไฟล์ BIOS dc_boot.bin ลงในโฟลเดอร์ BIOS โดยตรง แต่จริงๆ แล้วจำเป็นต้องวางไว้ในโฟลเดอร์ย่อยชื่อ “dc” ภายในโฟลเดอร์ BIOS ก่อน
ส่วนไฟล์ ROM นั้น muOS มีความพิเศษตรงที่ไม่สนใจว่าคุณจะวางไว้ที่ใด คุณสามารถวางไว้ในการ์ดใบแรกหรือใบที่สองก็ได้ ข้อกำหนดเพียงอย่างเดียวคือคุณต้องสร้างโฟลเดอร์ชื่อ “ROMS” ในไดเร็กทอรีหลักของการ์ดที่คุณใช้ จากนั้นสร้างโฟลเดอร์ย่อยตามที่คุณต้องการและใส่เกมของคุณลงไป โครงสร้างที่ผมใช้มีดังนี้:
Arcade – MAME 2003 Plus
Arcade – Neo Geo
Nintendo – Game Boy
Nintendo – Super Nintendo
Sega – Dreamcast
Sega – Genesis… และอื่นๆ
ทีนี้ เมื่อคุณเริ่มใช้งาน muOS อีกครั้ง คุณสามารถเรียกดูโฟลเดอร์ เลือกเกม และเริ่มเล่นได้ หากคุณตั้งชื่อโฟลเดอร์อย่างเป็นระเบียบ (เช่นตัวอย่างข้างต้น) ระบบจะเดาว่าคุณกำลังเปิดใช้งานคอนโซลใดและเริ่มเล่นให้ หากระบบไม่ทราบว่าคุณกำลังเปิดใช้งานระบบใด ระบบจะแจ้งให้คุณเลือกเครื่องเล่นเกมและแกนจำลองที่คุณต้องการ (หลังจากครั้งแรก ระบบจะจดจำการตั้งค่าของคุณ) หากคุณต้องการเปลี่ยนเครื่องเล่นเกมหรือแกนจำลองในภายหลัง ให้กดปุ่ม SELECT เมื่อวางเคอร์เซอร์เหนือเกม และเลือกใหม่
เพิ่มภาพปกเกม : คุณสามารถเพิ่มภาพปกเกมลงในอุปกรณ์ของคุณได้ โดยภาพเหล่านั้นจะถูกจัดเก็บไว้ในตำแหน่งเฉพาะ บนการ์ด SD1 ของคุณ (หรือ SD2 หากคุณได้ย้ายไปใช้การ์ด SD2 ตามที่แสดงในวิดีโอข้างต้น) ให้ไปที่ MUOS > info > catalogue และภายในโฟลเดอร์นั้น คุณจะเห็นรายการโฟลเดอร์ระบบเกม ในแต่ละโฟลเดอร์จะมีโฟลเดอร์ย่อยสามโฟลเดอร์ ได้แก่ box, preview และ text “Box” หมายถึงภาพปกเกมของคุณ “Preview” สำหรับภาพหน้าจอ และ “Text” สำหรับข้อมูลเมตาที่อธิบายรายละเอียด ภาพควรอยู่ในรูปแบบไฟล์ .png และไฟล์ “Text” ควรเป็น .txt ชื่อไฟล์สื่อแต่ละไฟล์จะต้องตรงกับชื่อ ROM ที่เกี่ยวข้อง โดยทั่วไปแล้ว ผมจะใช้ภาพปกเกมที่มีความกว้าง 300 พิกเซล เพื่อลดขนาดไฟล์ สำหรับผู้ใช้ขั้นสูง คุณสามารถลองใช้Artie Scraperซึ่งจะดึงภาพปกเกมให้คุณ แต่ต้องป้อนคำสั่งในเทอร์มินัล
อัปเดต MUOS:น่าเสียดายที่เท่าที่ผมทราบ วิธีเดียวที่จะอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ของ muOS คือการแฟลชการ์ด SD1 ใหม่ด้วยซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่ คล้ายกับการติดตั้งระบบปฏิบัติการในครั้งแรก นี่คือเหตุผลที่ผมแนะนำให้ใช้การ์ดสองใบ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องถ่ายโอนไฟล์เกมของคุณใหม่ โชคดีที่ muOS มีแอปสำรองข้อมูลและเก็บถาวรในตัว เพื่อช่วยให้กระบวนการเก็บรักษาเนื้อหาในการ์ด SD1 ของคุณง่ายขึ้น (ดูส่วนถัดไปสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม) ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา และหากคุณใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด ("BANANAS") โอกาสที่การอัปเดตครั้งต่อไปจะไม่ต้องแฟลชใหม่ก็มีสูง
โปรแกรมจัดการไฟล์สำรอง/เก็บรักษา : muOS มีความสามารถในการสร้างไฟล์สำรองของไฟล์สำคัญ เช่น ภาพปกเกม BIOS การตั้งค่า และไฟล์บันทึกเกม RetroArch คุณสามารถสร้างไฟล์สำรองเหล่านี้ได้โดยใช้โปรแกรมจัดการไฟล์สำรอง ซึ่งอยู่ในส่วนแอปพลิเคชัน ไฟล์สำรองเหล่านี้จะถูกสร้างขึ้นในโฟลเดอร์ชื่อ “ARCHIVE” บนการ์ด SD ของคุณ จากนั้นคุณสามารถดึงไฟล์เหล่านี้จากการ์ด SD เพื่อเก็บรักษาได้ และหากคุณต้องการติดตั้ง muOS ใหม่ คุณสามารถนำเข้าไฟล์เหล่านี้อีกครั้งโดยใช้โปรแกรมจัดการไฟล์สำรองได้
การตั้งค่าทั่วไป : ในส่วน การกำหนดค่า > การตั้งค่าทั่วไป มีตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง ที่นี่คุณสามารถเปิด/ปิดเพลงพื้นหลัง เลือกโฟลเดอร์ที่จะเริ่มต้นเมื่อบูตอุปกรณ์ เปิด/ปิด HDMI และแม้แต่ปรับอุณหภูมิสีของหน้าจอ นอกจากนี้ ภายในเมนูการกำหนดค่า คุณยังสามารถกำหนดอุปกรณ์ที่ถูกต้องเพื่อให้การควบคุมทำงานได้ตามที่ต้องการ ในส่วน "ประเภทอุปกรณ์"
ธีม : มีธีมบางส่วนที่ติดตั้งไว้ใน muOS ของคุณแล้ว คุณสามารถเปลี่ยนธีมได้โดยไปที่ การตั้งค่า > ตัวเลือกธีม นอกจากนี้ คุณยังสามารถดาวน์โหลดธีมจากชุมชนผ่านทางเว็บไซต์ได้ อีกด้วย
เครือข่าย WiFi และบริการเว็บ : ตัวเลือกเหล่านี้สามารถพบได้ในเมนูการกำหนดค่า และช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับเครือข่ายท้องถิ่นของคุณ เปิดใช้งานSyncthing (เพื่อซิงค์ไฟล์ที่บันทึกไว้) เรียกดูระบบไฟล์ของอุปกรณ์ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ และซิงค์นาฬิกาของอุปกรณ์กับเวลาเครือข่ายของคุณ ในการใช้เบราว์เซอร์ไฟล์ ให้เปิดใช้งานในส่วนบริการเว็บ จากนั้นในเบราว์เซอร์ของคอมพิวเตอร์ของคุณ (ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายเดียวกันกับอุปกรณ์ของคุณ) ให้พิมพ์ที่อยู่ IP ของอุปกรณ์ (ที่พบในส่วนการกำหนดค่าเครือข่าย WiFi) และเพิ่ม :9090 ที่ท้าย ที่อยู่ควรมีลักษณะเช่น 192.168.86.XX:9090 เมื่อระบบขอให้ป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน ให้ใช้ “muos” สำหรับทั้งสองช่อง
PortMaster : แอปพลิเคชันที่ยอดเยี่ยมนี้ติดตั้งอยู่ใน muOS แล้ว คุณสามารถค้นหาได้ในส่วน แอปพลิเคชัน > PortMaster แอปพลิเคชันนี้ต้องการการเชื่อมต่อ Wi-Fi ในการทำงาน และเกมส่วนใหญ่ที่พบใน PortMaster ก็ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ เมื่อคุณติดตั้งพอร์ตแล้ว พอร์ตนั้นจะปรากฏในส่วน พอร์ต ของตัวจัดการไฟล์ของคุณ หากต้องการอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PortMaster โปรดดูที่เว็บไซต์ของพวกเขาหรือคู่มือ PortMaster ของ ฉัน
การเพิ่มเกม Pico-8 ผ่านแอปพลิเคชันดั้งเดิม : คุณสามารถเล่นเกม Pico-8 ผ่านแอปพลิเคชันดั้งเดิมได้ และการตั้งค่าก็ง่ายดายมากนี่คือคำแนะนำ
| ปุ่มลัด | การทำงาน |
| เมนู + R1 | เร่งไปข้างหน้า |
| เมนู + L2 | บันทึกสถานะ |
| เมนู + R2 | สถานะการโหลด |
| เมนู + X | เมนูอีมูเลเตอร์ |
| เลือก + เริ่ม | ออกจากเกม |
| ปุ่มเมนู + ปุ่มปรับระดับเสียง | ปรับความสว่าง |
| แอล2 + อาร์2 | ถ่ายภาพหน้าจอ |
| เปิดใช้งาน (กดค้างไว้สองวินาที) | นอน |
เคล็ดลับและเทคนิคเพิ่มเติม:
- คุณสามารถเพิ่มเกมโปรดได้โดยการกดปุ่ม Y ขณะวางเคอร์เซอร์เหนือเกมนั้น เกมดังกล่าวจะถูกเพิ่มลงในส่วน "รายการโปรด" ในเมนูหลัก โดยจะเรียงลำดับตามตัวอักษร
- ทีมพัฒนา muOS แนะนำว่าไม่ควรใช้การ์ด SD ที่มากับเครื่องในการติดตั้งระบบปฏิบัติการของพวกเขา
แนะนำให้ติดตั้งการ์ด microSD สองช่อง (16GB และ 64GB ขึ้นไป)
MinUI เป็นแอปพลิเคชันตัวเรียกใช้งานแบบกำหนดเองสำหรับอุปกรณ์หลากหลายประเภท และรองรับสมาร์ทโฟนตระกูล RG35XX ทั้งหมด
ข้อดี:
- อินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่เรียบง่ายและสะอาดตา
- ติดตั้งลงในการ์ด SD มาตรฐาน (รวมถึงการ์ด SD ที่ดัดแปลงแล้ว)
- การตั้งค่าที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
- การเปิด/ปิดเกมเร็วมาก
- RG35XXSP มีตัวรองรับฝาปิดสำหรับโหมดพักเครื่อง/ปิดเครื่อง
- ซ่อนนามสกุลไฟล์และข้อมูลเมตาที่ไม่ต้องการ
- ฟังก์ชันการนอนหลับ/ปิดเครื่อง/บันทึกข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ
- เมนูการตั้งค่าแบบรวม
- กระบวนการอัปเดตแบบลากและวาง
- การ์ด SD ที่ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ MinUI ได้
ข้อเสีย:
- จำกัดเฉพาะระบบหลักๆ (ส่วนใหญ่คือ Sega, Nintendo, Sony)
- จำกัดสูงสุดที่ PS1 (สามารถเพิ่มเครื่องอื่นได้ด้วยตนเอง)
- ไม่มีการรองรับ WiFi/Bluetooth (สามารถเพิ่ม WiFi ได้ด้วยตนเอง)
- ไม่มีการรองรับ Portmaster หรือ Pico-8 แบบดั้งเดิม
- มีเสียง "ป๊อป" จากลำโพงเมื่อออกจากเกม
- เวลาบูตเครื่องเท่ากับระบบปฏิบัติการมาตรฐาน (~25 วินาที)
ROM และ BIOS:ขอแนะนำให้ใช้การ์ดสองใบกับ MinUI เมื่อคุณติดตั้งระบบปฏิบัติการและเปิดใช้งานครั้งแรก ระบบจะสร้างโฟลเดอร์ ROM และ BIOS ของคุณบนการ์ดใบที่สอง จากนั้นคุณสามารถเพิ่มไฟล์ของคุณได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไฟล์ BIOS เฉพาะ คุณสามารถดูคำแนะนำได้ในไฟล์ readme ที่อยู่ในไฟล์ zip สำหรับการติดตั้ง MinUI
ข้อดีหลักๆ ของ MinUI คือมันใช้งานง่ายมาก — เมื่อคุณเพิ่มเกมแล้ว ประสบการณ์การใช้งานโดยรวมนั้นใช้งานง่ายมาก นี่คือระบบปฏิบัติการที่ผมติดตั้งลงในอุปกรณ์ที่ผมจะมอบเป็นของขวัญให้กับคนที่ไม่ได้คุ้นเคยกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือเทคโนโลยีมากนัก นอกจากนี้ การตั้งค่าส่วนใหญ่ได้รับการปรับให้เหมาะสมกับอุปกรณ์แล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเข้าไปที่การตั้งค่าเว้นแต่คุณต้องการ และสุดท้าย เมนูการตั้งค่าแบบรวมศูนย์หมายความว่าคุณจะไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้วิธีการใช้งานระบบเมนูที่ยุ่งยากของ RetroArch อีกต่อไป
นอกจากนี้ MinUI ยังมีคุณสมบัติการใช้งานที่ง่าย เช่น การปิดเครื่อง เพียงแค่กดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้ หากคุณกำลังเล่นเกมอยู่เมื่อปิดเครื่อง ระบบจะสร้างไฟล์บันทึกด่วน และเมื่อคุณเปิดเครื่องอีกครั้ง ระบบจะพาคุณกลับไปยังจุดเดิมในเกม
ข้อเสียเปรียบหลักของ MinUI คือรองรับได้สูงสุดแค่ PS1 เท่านั้น และไม่มีระบบ WiFi หรือ Bluetooth
ติดตั้ง MIUI:
- ดาวน์โหลดและแตก ไฟล์เวอร์ชันล่าสุด จากหน้า GitHub ของพวกเขา คุณจะต้องมีไฟล์ zip "พื้นฐาน" อย่างน้อยหนึ่งไฟล์ แต่คุณยังสามารถดาวน์โหลดไฟล์ "เพิ่มเติม" เพื่อรับโปรแกรมจำลองเกมอื่นๆ เช่น Game Gear, Pico-8, PC Engine (TurboGrafx), Super Game Boy, Virtual Boy และ Master System ได้อีกด้วย
- หากการ์ด microSD (SD2) ใบที่สองของคุณมีขนาดใหญ่กว่า 32GB ขอแนะนำให้ฟอร์แมตการ์ดเป็นระบบไฟล์ FAT32 วิธีนี้จะทำให้การ์ดสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ เช่น Miyoo Mini, RG35XX รุ่นดั้งเดิม และ TrimUI Smart
- หากใช้ Windows ให้ใช้ เครื่องมือ guiformat เพื่อฟอร์แมตการ์ดเป็น FAT32
- หากคุณใช้ Mac ให้ "ลบ" ดิสก์โดยใช้แอป Disk Utility ที่มีอยู่ใน Mac แล้วเลือกรูปแบบไฟล์ MS-DOS (FAT)
- ในโฟลเดอร์ MinUI base ที่แตกไฟล์แล้ว ให้ไปที่ “rg35xxplus” > dmenu.bin แล้ววางไฟล์นั้นลงในรูทของพาร์ติชั่น “NO NAME” หรือ “ROMS” บนการ์ด SD เดิมของคุณ (เป็นพาร์ติชั่นที่มีโฟลเดอร์ “anbernic” ซึ่งจะมีชื่อแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์และเวอร์ชันระบบปฏิบัติการเดิม)
- นำไฟล์ MinUI.zip จากโฟลเดอร์หลักของ MinUI ที่แตกไฟล์แล้ว ไปวางไว้ในไดเร็กทอรีหลักของ microSD (SD2) การ์ดตัวที่สองของคุณ
- ใส่การ์ด microSD ลงในอุปกรณ์ แล้วปล่อยให้ระบบทำการติดตั้งจนเสร็จสิ้น เมื่อเสร็จแล้ว คุณจะเห็นเมนูว่างเปล่า ปิดอุปกรณ์โดยกดปุ่ม POWER ค้างไว้สองสามวินาที จากนั้นใส่การ์ด SD2 กลับเข้าไปในคอมพิวเตอร์ของคุณ
- ตอนนี้บนการ์ด คุณควรจะเห็นโฟลเดอร์ ROMs และ BIOS รวมถึงโฟลเดอร์อื่นๆ เพิ่มไฟล์เกมและไฟล์ BIOS ของคุณตามคำแนะนำในไฟล์ readme ของ MinUI
- หากต้องการ คุณสามารถลากและวางเนื้อหาของไฟล์ซิป “Extras” ลงในการ์ด SD2 (เลือก “ผสาน” ไฟล์เมื่อมีข้อความแจ้ง) สำหรับระบบเพิ่มเติม เช่น Game Gear และ Virtual Boy จากนั้นเพิ่มไฟล์ ROM/BIOS เหล่านั้นด้วย คำแนะนำเพิ่มเติมมีอยู่ในไฟล์ readme “extras” ด้วย
ในการ อัปเดต MinUI ให้ดาวน์โหลดเวอร์ชันล่าสุด (ไฟล์ zip “พื้นฐาน”) แตกไฟล์ และย้ายไฟล์ MinUI.zip ไปยังการ์ด SD2 ของคุณ ครั้งต่อไปที่คุณเปิดเครื่อง ระบบจะทำการอัปเดตให้
หากต้องการกลับไปใช้ระบบปฏิบัติการดั้งเดิมให้เสียบการ์ด SD1 เข้ากับคอมพิวเตอร์ แล้วเปลี่ยนชื่อไฟล์ dmenu.bin เป็นชื่ออื่น เช่น dmenu_disabled.bin หากต้องการ คุณสามารถเปลี่ยนชื่อกลับเป็น dmenu.bin เพื่อกลับไปใช้ MinUI ได้
เคล็ดลับเพิ่มเติมจาก MINUI:
- ขณะเล่นเกม ให้กดปุ่ม MENU เพื่อเปิดหน้าจอตัวเลือก ในหน้าจอนี้ คุณสามารถออกจากเกม โหลด/บันทึกสถานะ และดูตัวเลือกเพิ่มเติมได้ โปรดทราบว่าโดยปกติแล้ว เกมจะไม่บันทึกหรือโหลดอัตโนมัติ ดังนั้นโปรดบันทึกความคืบหน้าของคุณโดยใช้การบันทึกในเกมหรือการบันทึกสถานะ
- เมื่อเลื่อนดูรายชื่อเกม หากเกมของคุณมีการบันทึกสถานะไว้แล้ว คุณสามารถกดปุ่ม X แทนปุ่ม A เพื่อเริ่มเกมจากสถานะที่บันทึกไว้ได้โดยตรง ซึ่งรวดเร็วและสะดวกมาก
- เมนูตัวเลือกมีตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพหลากหลาย พร้อมคำบรรยายที่เข้าใจง่ายเพื่ออธิบายแต่ละตัวเลือก คุณสามารถตั้งค่าอัตราส่วนภาพ เส้นสแกน การแมปปุ่ม การแมปปุ่มลัด และอื่นๆ ได้ทั้งในระดับระบบหรือในแต่ละเกม
- MinUI มีฟังก์ชันบันทึกด่วน เพียงแค่ปิดเครื่องขณะเล่นเกม ระบบจะบันทึกตำแหน่งที่คุณเล่นอยู่ และจะเล่นต่อเมื่อคุณเปิดเครื่องอีกครั้ง
- MinUI มีฟังก์ชันพักหน้าจอ เพียงแค่แตะปุ่มเปิด/ปิดขณะเล่นเกม แล้วแตะอีกครั้งเพื่อกลับมาใช้งานต่อ เมื่ออยู่ในเมนูหลัก หน้าจอจะเข้าสู่โหมดพักหน้าจอโดยอัตโนมัติหากคุณไม่กดอะไรเลยเป็นเวลาหนึ่งนาที แตะปุ่มเปิด/ปิดเพื่อเปิดหน้าจอขึ้นมาใหม่ — แต่หากคุณปล่อยให้หน้าจออยู่ในโหมดพักนานเกินสองนาที อุปกรณ์จะปิดเครื่องเพื่อประหยัดพลังงานแบตเตอรี่
- MinUI รองรับเกมหลายแผ่น โปรดตรวจสอบไฟล์ readme.txt สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม
- MinUI รองรับ HDMI และปรับขนาดเกมได้อย่างเหมาะสม
RY'S MINUI ADD-ON PAKS :มีแพ็กเกจจากชุมชนที่จะขยายตัวเลือกการเล่นเกมของคุณด้วย MinUI บนอุปกรณ์ RG35XX แพ็กเกจนี้จะเพิ่มโปรแกรมจำลองเกม (emulator) เข้าไปในอินเทอร์เฟซ MinUI ทำให้คุณสามารถเล่นเกม Dreamcast, Nintendo DS, Nintendo 64, PSP และเกมอาร์เคดได้ภายในอินเทอร์เฟซ MinUI นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือต่างๆ มากมาย เช่น โปรแกรมอ่านอีบุ๊ก เครื่องเล่นเพลง และอื่นๆ อีกมากมาย หากต้องการติดตั้งแพ็กเกจนี้ ให้ไปที่หน้า GitHub ของพวกเขาและทำตามคำแนะนำในไฟล์ readme
GarlicOS 2.0 เป็นเวอร์ชันอัปเดตของ GarlicOS รุ่นดั้งเดิม (ที่สร้างขึ้นสำหรับแท็บเล็ตพกพา RG35XX รุ่นแรกในปี 2022) ระบบปฏิบัติการนี้ออกแบบมาเพื่อใช้งานบนอุปกรณ์หลากหลายประเภท รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ชิปเซ็ตอื่น ๆ (แม้แต่อุปกรณ์ที่ใช้ Android)
ข้อดี:
- อินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่เรียบง่ายและสะอาดตา
- รองรับอุปกรณ์หลากหลายประเภท
ข้อเสีย:
- ยังอยู่ในสถานะอัลฟ่า
- ขั้นตอนการติดตั้งค่อนข้างซับซ้อนทางเทคนิค
- ยังไม่มีการเรนเดอร์ด้วยฮาร์ดแวร์ ประสิทธิภาพจึงมีจำกัด
ระบบปฏิบัติการนี้ยังอยู่ในช่วงอัลฟ่าเริ่มต้น และถึงแม้ว่าจะเปิดให้ใช้งานทั่วไปแล้ว แต่ผมขอแนะนำให้รอจนกว่าจะมีการเปิดตัวเวอร์ชันเบต้า เว้นแต่คุณต้องการเป็นผู้ทดสอบ Garlic กลุ่มแรกๆ หากคุณต้องการทดสอบและให้ข้อเสนอแนะแก่ผู้พัฒนานี่คือลิงก์ไปยังแพ็กเกจการติดตั้ง
สมาชิกทีม ROCKNIX (เดิมชื่อ JELOS) กำลังทำงานเพื่อพอร์ตระบบปฏิบัติการของพวกเขาไปยังอุปกรณ์ตระกูล RG35XX นี่เป็นเพียงงานที่กำลังดำเนินการอยู่ และอาจจะไม่สำเร็จ แต่ฉันจะอัปเดตคู่มือนี้เมื่อเราได้รับข้อมูลเพิ่มเติม
การพอร์ต ROCKNIX ไปยังอุปกรณ์เหล่านี้จะเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ เนื่องจากมันได้รับการสนับสนุนอย่างเสถียรและแพร่หลายในเครื่องเล่นเกมพกพาหลากหลายรุ่น 这将使您能够可以将 SD2 (การ์ดเกม) 与人们的 ROM/เซฟเกม与它们的公司改变化。 นอกจากนี้ ROCKNIX ยังมีเอกสารประกอบที่ครอบคลุม การตั้งค่าเพิ่มประสิทธิภาพที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ตัวเลือกการกำหนดค่าที่ได้รับการสนับสนุนจาก EmulationStation การสนับสนุน Portmaster การเล่นแบบมัลติเพลเยอร์ที่ง่าย ฟีเจอร์เครือข่ายที่แข็งแกร่ง (รวมถึงการอัปเดต OTA) และอื่นๆ อีกมากมาย
เชเดอร์, โอเวอร์เลย์ และอื่นๆ
เมื่อเร็วๆ นี้ ผมได้สร้างคู่มือการใช้งาน shaders และ overlays สำหรับหน้าจอ 4:3 ความละเอียด 480p ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์ RG*XX ทั้งหมด นี่เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมหากคุณต้องการเพิ่มประสิทธิภาพเอฟเฟกต์หน้าจอให้สูงสุด คุณสามารถปรับสมดุลพิกเซล เติมขอบสีดำ และแม้แต่สร้างเอฟเฟกต์ทีวี CRT เหมือนอย่างที่คุณเห็นในภาพตัวอย่างด้านบน นอกจากคู่มือวิดีโอแล้ว ผมยังได้จัดทำคู่มือแบบเขียน อย่างละเอียดอีกด้วย คุณสามารถใช้ shaders และ overlays กับระบบปฏิบัติการส่วนใหญ่ที่มีให้สำหรับอุปกรณ์นี้ได้ (MinUI อาจมีข้อจำกัดบ้าง แต่ก็ยังมีตัวเลือกการซ้อนทับเส้นสแกน/ตาราง)
โปรดสังเกตส่วน “ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการอื่นๆ” ในคู่มือฉบับเต็ม (และวิดีโอ) สำหรับเคล็ดลับและเทคนิคบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับตัวเลือกระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์เหล่านี้ นอกจากนี้ยังมีส่วนท้ายของคู่มือฉบับเต็มที่แนะนำเชเดอร์และลิงก์ไปยังโอเวอร์เลย์สำหรับ RG Cube XX ด้วย
การดัดแปลงฮาร์ดแวร์
หนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับอุปกรณ์เหล่านี้คือความสนุกสนานในการเล่นกับมัน คุณสามารถปรับแต่งรูปลักษณ์และสัมผัสของแต่ละเครื่องเพื่อปรับแต่งประสบการณ์โดยรวมของคุณได้ ตัวอย่างเช่น ในวิดีโอข้างต้น ผมได้ทำการ "ดัดแปลงด้วยเทป" อย่างรวดเร็วกับ RG35XXSP เพื่อทำให้ปุ่มนุ่มขึ้นและลดเสียงคลิก นี่เป็นความชอบส่วนตัว แต่แน่นอนว่ามันช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานเครื่องเล่นเกมของผมได้ โปรดทราบว่าการอัปเดตล่าสุดของอุปกรณ์นี้ได้แก้ไขปัญหาเสียงคลิกของ RG35XXSP แล้ว ต่อ
ไปนี้คือคำแนะนำเกี่ยวกับจำนวนชั้นของเทป:
ปุ่ม D-Pad, ปุ่ม SELECT/START/Menu: 2 ชั้นต่อ
ปุ่ม ปุ่มด้านหน้า: 3 ชั้นต่อปุ่ม
ปุ่มไหล่/ไกปืน: 2 หรือ 3 ชั้นต่อปุ่ม
นอกจากนี้ คุณยังสามารถหาซื้อสติ๊กเกอร์และปุ่มสำรองสำหรับเครื่องเล่นเกมพกพาแต่ละรุ่นได้บน Etsy ซึ่งสร้างสรรค์โดยสมาชิกในชุมชน หนึ่งในร้านค้าที่ฉันชอบมากที่สุดคือSakura Retro Moddingพวกเขามีตัวเลือกที่หลากหลายสำหรับแต่ละอุปกรณ์ และทำโมดิฟายแบบนี้มาหลายปีแล้ว
อีกตัวอย่างที่ดีคือEpicPrintingShopซึ่งผลิตที่จับ/เคสแบบกลับด้านได้สำหรับอุปกรณ์ Anbernic ส่วนใหญ่ เพื่อปกป้องอุปกรณ์ของคุณและปรับปรุงหลักสรีรศาสตร์ในการใช้งาน
บันทึกการเปลี่ยนแปลง
26 ต.ค. 2024
– แก้ไขลิงก์ muOS ที่เสีย
– เพิ่มลิงก์ Artier Scraper สำหรับ muOS
24 ต.ค. 2024
– เพิ่มวิดีโอเปรียบเทียบ RG*XX
– เพิ่มลิงก์ไปยัง RG Cube XX
16 ต.ค. 2024
– เพิ่มคู่มือวิดีโอ muOS
– อัปเดตส่วน muOS
02 ก.ย. 2024
– เพิ่มส่วนที่เกี่ยวข้องกับคู่มือเชเดอร์และโอเวอร์เลย์
– ลบส่วนเชเดอร์/โอเวอร์เลย์ของ muOS ออกเพื่อลดความขัดแย้งกับคู่มือเชเดอร์
27 ส.ค. 2024
– อัปเดต ลิงก์ Syncthingในส่วน muOS
– อัปเดตลิงก์ไปยังคลังธีม muOS
24 ส.ค. 2024
– เพิ่มส่วนการชาร์จและความปลอดภัย
– เพิ่มส่วนการดัดแปลงฮาร์ดแวร์
– อัปเดตลิงก์ไปยังอุปกรณ์ใหม่ (RG40XX)
– อัปเดตข้อดี/ข้อเสียตามการอัปเดตล่าสุด
04 ส.ค. 2024
– เพิ่มส่วนโอเวอร์เลย์ใหม่ในส่วนของ muOS ในคู่มือ
02 ส.ค. 2024
– เพิ่มหมายเหตุเกี่ยวกับการรองรับฝาปิดใน KNULLI และ muOS
– ปรับข้อดี/ข้อเสียใน muOS เพื่อให้สอดคล้องกับการอัปเดตใหม่
– เพิ่มหมายเหตุเกี่ยวกับวิธีการอัปเดต muOS แบบใหม่
– เพิ่มลิงก์ไปยังชุดโอเวอร์เลย์ "ที่สมบูรณ์แบบ" ของ muOS
10 ก.ค. 2024
– เพิ่มบริบทเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบไฟล์ exFAT และ EXT4 เมื่อใช้ KNULLI
– เพิ่มหมายเหตุเกี่ยวกับการอัปเดตระบบปฏิบัติการดั้งเดิมแบบ 32 บิตเป็นระบบปฏิบัติการดั้งเดิมแบบ 64 บิตที่ดัดแปลงแล้ว
05 ก.ค. 2024
– เพิ่มคำแนะนำในการฟอร์แมต SD2 เป็น FAT32 เมื่อใช้ MinUI
– อัปเดตข้อดี/ข้อเสียของ muOS เนื่องจากการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Refried Beans
14 มิถุนายน 2024
– เพิ่มแอป YouTube สำหรับระบบปฏิบัติการดั้งเดิม
– เพิ่มข้อความเกี่ยวกับการคัดลอก/วางไฟล์ไปยังการ์ด microSD ใหม่
– ปรับปรุงและชี้แจงเพิ่มเติมต่างๆ
25 ธันวา 2025
– เผยแพร่คู่มือ
เครดิต...เวป https://retrocatalog.com/
สามารถดูรายละเอียด สเปก เกมส์ พกพา ได้ ที่เวป ..
