มารู้จักรองเท้าวิ่งในไลน์ของ NIKE กันดีกว่า!
NIKE เป็นอีก หนึ่งแบรนด์ชั้นนำในเรื่องรองเท้าวิ่ง มีรองเท้าวิ่งให้เลือกหลากหลายและแต่ละโมเดลก็มีการพัฒนาตนเองมาเรื่อย ๆ ทั้งด้านเทคโนโลยีและโครงสร้าง สีสันภายนอก แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าคู่ไหนของไนกี้ที่เหมาะกับเรา?
ถึงแม้ไนกี้บางโมเดลจะมีประวัติศาสตร์ ยาวนาน อย่าง NIKE Pegasus ที่มีถึง 30+ รุ่น ไนกี้ก็ยังนำเสนอรองเท้ารุ่นใหม่ ๆ ที่มีเทคโนโลยีที่ใหม่ขึ้น ชื่อใหม่ ประเภทใหม่ ฯลฯ ในบทความนี้เราจะมาดูกันครับว่าตอนนี้ไนกี้มีเทคโนโลยีอะไรต่าง ๆ ในรองเท้าวิ่งของเขาบ้าง และรองเท้าวิ่งแต่ละประเภทจำแนกอย่างไรและเหมาะกับใคร
ว่ากันด้วยเทคโนโลยี
Flyknit
ตัวอย่างรองเท้าวิ่งที่ดัง ๆ ที่มี Flyknit ก็มี Flyknit Racer (ตัวแข่ง) แล้วก็ Flyknit Lunar1+ (ตัวซ้อม ใช้ใส่ซ้อมได้ทุกวันและมีการรองรับแรงกระแทกที่ดี).
Lunar Foam

พื้นรองเท้าวิ่งนั้นทำจากโฟม แต่ละบริษัทก็มีสูตรเฉพาะของตัวเองและสถาปนาเป็นเทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่ง จุดร่วมที่แต่ละบริษัทพยายามทำเหมือนกันคือ ทำให้โฟมนี้ เบามากที่สุดเท่าที่จะเบาได้, นุ่มเพื่อที่จะรองรับแรงกระแทกขณะเท้าปะทะกับพื้น, เด้งเหมือนสปริง และทนทานไม่สึกหรอง่ายไปตามการใช้งาน
แต่ก่อนไนกี้มีโฟมที่เรียกว่า CUSHLON ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ยังพบเห็นอยู่ในรองเท้าวิ่งรุ่น Air ต่าง ๆ
และในปี 2009 ไนกี้ก็ได้พัฒนาโฟมสูตรใหม่ เรียกว่า Lunar Foam ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น LunarLon ซึ่งเป็นโฟมที่ นุ่มที่สุด เบาที่สุดด และรองรับแรงกระแทกได้ดีที่สุดของไนกี้ขณะนี้ Lunarlon นั้นเบากว่าโฟมมาตรฐานอย่าง Phylon ถึง 30%
แต่ก่อนไนกี้มีโฟมที่เรียกว่า CUSHLON ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ยังพบเห็นอยู่ในรองเท้าวิ่งรุ่น Air ต่าง ๆ
และในปี 2009 ไนกี้ก็ได้พัฒนาโฟมสูตรใหม่ เรียกว่า Lunar Foam ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น LunarLon ซึ่งเป็นโฟมที่ นุ่มที่สุด เบาที่สุดด และรองรับแรงกระแทกได้ดีที่สุดของไนกี้ขณะนี้ Lunarlon นั้นเบากว่าโฟมมาตรฐานอย่าง Phylon ถึง 30%
โดยปกติแล้ว Lunarlon จะถูกฝังอยู่ใน Phylon Foamซึ่งแข็งกว่า เพื่อให้โครงสร้างและซัพพอร์ทในส่วนที่เท้าต้องการ
โดยสรุปแล้ว ถ้าเป็นไนกี้มองหารองเท้าวิ่งโมเดลที่เป็น Lunar... แลย ถ้าคุณอยากได้รองเท้าวิ่งที่ให้ความรู้สึกเบา นุ่ม และรองรับแรงกระแทกได้อย่างนุ่มนวล
มาลองดูตัวอย่าง รองเท้าที่มีเทคโนโลยี Lunar ของ ไนกี้ ปี 2013 กันครับ:
Nike LunarGlide
รุ่นยอดนิยมสุดในตระกูล Lunar มีซัพพอร์ตให้ปานกลางสำหรับคนที่มีลักษณะเท้าแบบ OverPronate มีรองรับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยมและส่วนอัปเปอร์ที่เบาสบาย เหมาะกับวิ่งซ้อมระยะไกล
มาลองดูตัวอย่าง รองเท้าที่มีเทคโนโลยี Lunar ของ ไนกี้ ปี 2013 กันครับ:
Nike LunarGlide
คราวนี้มาดูเทคโนโลยีของไนกี้ที่มีแนวคิดกับการเคลื่อนไหวของเท้าให้เป็นธรรมชาติกัน นั่นก็คืิอ ไนกี้ ฟรี (NIKE FREE) นั่นเองครับ
Nike Free
บางคนก็สงสัยว่า "ฟรี" นั้นก็ยังเป็นรองเท้าที่มีการรองรับแรงกระแทกอยู่มาก ซึ่งนั่นก็หมายความว่าทำให้นักวิ่งไม่รู้สึกของการที่เท้า "กระทบ" พื้น จริง ๆ ซักเท่าไหร่
ก็อาจจะจริงอย่างที่มีคนที่ว่าอย่างนั้น แต่การที่พื้นรองเท้าวิ่งนั้นยืดหยุ่นมาก ๆ ผนวกกับส่วนอัปเปอร์ที่เปิดและกระชับไปกับเท้านั้นก็เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมแล้ว.
ตัวเลขแต่ละตัวที่ต่อท้ายคืออะไร?
พูดง่าย ๆ ว่า ตัวเลขเหล่านี้บอกถึงความ "ยืดหยุ่น" ของรองเท้ารุ่น "ฟรี" นั่นเอง 1 หมายถึงให้ความรู้สึกเหมือนเท้าเปล่า จนถึง 10 ที่หมายถึงการให้ความรู้สึกเหมือนรองเท้าทั่วไป
ตัวเลขเหล่านี้อาจจะได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่มาเรื่อย ๆ เช่น มี Free 3/5/7 แต่โดยหลักการแล้วตัวเลขที่น้อยกว่าหมายถึงการให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ (ยืดหยุ่น)มากกว่า
สำหรับปี 2014 มี Free หลาย เวอร์ชัน เช่น
- FREE 3.0 (มินิมัลสุด ๆ มี Heel2Toe Drop อยู่ที่ 4 มิล)
- FREE 4.0 (มี Heel2Toe Drop อยู่ที่ 6 มิล)
- FREE 5.0 (มี Cushioning อาจพูดได้ว่าเป็นรุ่นเริ่มต้นสำหรับใครที่ต้องการลองประสปการณ์แบบ ธรรมชาติ ๆ)
- FREE FLYKNIT ก็คือ FREE + FLYKNIT รองเท้ารุ่นล่าสุดที่ให้ทั้งความยืดหยุ่นของ FREE และ ความเบา สบาย กระชับ ระบายอากาศได้ดีในส่วนอัปเปอร์จาก FLYKNIT
มา คราวนี้มาที่เทคโนโลยีที่มีมาเนิ่นนานของไนกี้อย่าง ไนกี้ แอร์ กันบ้าง
รองเท้าวิ่งไนกี้ที่จัดอยู่ในประเภท "แอร์" นั้นจริง ๆ ใช้ โฟม Cushlon ที่ส่วนของพื้นรองเท้า ซึ่งถึงแม้จะนุ่มและยืดหยุ่นดีแต่ก็หนักและไม่เด้งเท่าที่นักวิ่งหวังไว้
ผลสรุปก็คือ ไนกี้ตัดโฟมบางส่วนออกไปแทนที่ด้วยถุงลมใส่ก๊าซชนิดพิเศษของไนกี้ แน่นอนว่าทำให้น้ำหนักเบาลงและยังเพิ่มสมรรถนะในการรองรับแรงกระแทกอย่างดี
รองเท้าไนกี้รุ่นต่าง ๆ กัน ก็วางถุงลมนี้ไว้ในที่ ๆ ต่างกัน เช่นที่ส้น หรือที่หน้าเท้า ไม่ก็ทั้งสองอย่างเลย
ไอ้ถุงลม(AirBags) ที่ว่านี้ มี 3 ประเภทด้วยกันคือ: Air, Air Max and Zoom Air.
- Nike Air -> รุ่นสามัญธรรมดา เป็นถุงลมขนาดกลางที่โดยส่วนใหญ่จะถูกจัดให้อยู่ที่บริเวณส้น
- Air Max -> ถุงลมขนาดใหญ่บักเอ้กที่หนามาก และรองรับแรงกระแทกมาก(จนบางครั้งเกินไป จนทำให้เท้ารู้สึกไม่เสถียรเวลาวิ่ง เราคิดว่าไม่น่าจะเหมาะกับการวิ่ง น่าจะใช้ใส่เดินปกติมากกว่า)
- Zoom Air -> ถุงลมขนาดบางสุดที่มีต้นแบบมาจากรองเท้าฟุตบอล มักพบในรองเท้าวิ่งรุ่นที่มีพื้นไม่หนามากและโครงสร้างไม่ซับซ้อน
ตัวอย่างรองเท้าวิ่งไนกี้ที่มี เทคโนโลยี Air
Nike Pegasus 30 | |
Nike Zoom Vomero 8 | |
Nike Zoom Elite | |
Nike Structure 16 |
นอกจากนี้แล้วก็ยังมีรองเท้าวิ่ง Trail และก็ตัวแข่งของไนกี้บางตัวที่ไม่ได้พูดถึง แต่เราก็มั่นใจว่าแค่นี้ก็ทำให้คุณ รุ้จักรองเท้าวิ่งจากไนกี้เพิ่มมากขึ้นเยอะแล้วล่ะครับ!
ขอบคุณข้อมูล จาก http://www.runningshoesguru.com/ ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น