อยากรู้ไหม? ทำไมคนเฮโลกันเข้าไปแย่งซื้อรองเท้าแฟชั่น NMD R1 เหมือนซอมบี้รุมทึ้ง ซึ่งนี่คือ คำตอบผมหามาให้
สำหรับรองเท้าแนวแฟชั่นกีฬาหรือที่เรียกกันว่า ‘สนีคเกอร์’ รุ่นนี้ อยู่ในตระกูล Originals (แนวรองเท้าวิ่ง) โดยรูปร่างมาในแบบ Futurism ที่กำลังเป็นเทรนด์ของรองเท้าแฟชันสตรีทในปัจจุบัน ซึ่งถ้าใครที่ชื่นชอบรองเท้าสายนี้อยู่แล้ว ก็คงรู้จักรุ่นยอดนิยมอย่าง ZX Flux หรือ Tubular Runner มาบ้าง แต่สำหรับ NMD เป็นอะไรที่แตกต่างและเหนือกว่านั้น
โดยชื่อเต็มคือ Originals NMD Runner (NMD R1) ซึ่ง ‘NMD’ มาจาก ‘NOMAD’ ที่หมายถึง ‘นักท่องเที่ยว/ผู้เร่ร่อน’
โดยชื่อเต็มคือ Originals NMD Runner (NMD R1) ซึ่ง ‘NMD’ มาจาก ‘NOMAD’ ที่หมายถึง ‘นักท่องเที่ยว/ผู้เร่ร่อน’
ทางด้านฝ่ายออกแบบของอาดิดาสเคยออกมาบอกเล่าถึงสนีคเกอร์รุ่นนี้ว่า หัวใจหลักของ adidas Originals แม้ยังเน้นการนำเรื่องราวของอดีตมาเป็นธีม แต่ก็เติมเต็มความคลาสสิคที่ทุกคนถวิลหาเข้ากับเทรนด์ของผู้คนยุคใหม่ที่ชอบเดินทาง จึงออกมาในรูปแบบรองเท้าที่ให้อารมณ์เหมือนรองเท้าผ้าใบทั่วไปผ่านสีสัน แต่รูปทรงดูทันสมัยเข้ากับยุคปัจจุบัน
ทั้งหมดทำให้ NMD ดูน่าสนใจมาก ในแง่รูปร่างหน้าตาที่สะสวยแบบร่วมสมัย พร้อมด้วยรายละเอียดที่น้อยแต่เด่น โดยตัวก่อนเป็นการตัดเอาคู่สีจากรองเท้าวิ่ง 3 รุ่นดังในอดีตมาไว้ในที่เดียว ส่วนเวอร์ชั่นล่าสุดที่ทำเอาสาวกแห่แหนไปแก่งแย่ง ยิ่งเด่นชัด ด้วยความคลาสสิคและร่วมสมัย จากโทนสีเทาสลับดำบนอัปเปอร์ผ้า ซึ่งทำให้สีเหลื่อมกันไปมาอย่างมีมิติ แถมความโดดเด่นยังอยู่ที่แผ่นหุ้มเอ็นร้อยหวาย, แถบผ้าด้านหลังที่มีประโยคว่า ”The Brand With The 3Stripes”
ทั้งนี้ NMD R1 เป็นผลงานชิ้นเอกของฝ่ายออกแบบอาดิดาส ซึ่งผสมผสานสไตล์ของรองเท้าวิ่งในอดีตกับเทคโนโลยี และดีไซน์ของสนีคเกอร์ยุคใหม่ โดยรองเท้าวิ่งสุดคลาสสิค ทั้ง 3 รุ่นที่กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในแง่มุมต่างๆ คือ
-adidas Micro Pacer (ในแง่ของการเคลื่อนที่/ออกตัวพุ่งทะยาน)
-adidas Rising Star (เรื่องการรองรับแรงกระแทกและการทรงตัว)
-adidas Boston Super (ความบาง/บางและพื้นล่างอันยอดเยี่ยม)
-adidas Micro Pacer (ในแง่ของการเคลื่อนที่/ออกตัวพุ่งทะยาน)
-adidas Rising Star (เรื่องการรองรับแรงกระแทกและการทรงตัว)
-adidas Boston Super (ความบาง/บางและพื้นล่างอันยอดเยี่ยม)
ซึ่งนั่นเป็นที่มาของการพัฒนาทั้งพื้นชั้นกลางที่มี EVA Plugs โฟมสี่เหลี่ยมที่แปะด้านข้าง 3 จุด เพื่อเพิ่มความทนทาน ให้กับตัวพื้นรองเท้าชั้นนอกสุดที่เน้นการรองรับแรงกระแทกและมีดอกยางยึดเกาะพื้น (เหมือน adidas Boston Super) ด้วยเทคโนโลยีที่ชื่อ ‘Boost’ ส่วนอัปเปอร์เป็นแบบผ้าถัก (ไพรม์นิต) ที่บาง แต่กระชับและยืดหยุ่น อีกทั้งระบายอากาศดี (เพื่อให้ความรู้สึกเดียวกับการใส่ถุงเท้า) เรียกว่า สเปกของรองเท้ารุ่นนี้นั้น จัดเต็มมาให้ตามสไตล์รองเท้าวิ่งเลยทีเดียว
สรุปแล้ว สิ่งที่น่าจะทำให้ผู้คนคลั่งไคล้ในตัว NMD ก็คือ ความสะสวยและเซ็กซี่แบบเรียบง่าย แต่โดนใจ ซึ่งผสมผสานจากจุดเด่น ทั้งด้านดีไซน์ของรองเท้าวิ่งชื่อดังในอดีต รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ ที่ให้แรงบันดาลใจมาสานต่อสู่รองเท้ารุ่นใหม่ ยิ่งเมื่อผนวกกับระบบการขายแบบจำกัดด้วย ซึ่งว่ากันว่า สาขาสยาม มีจำหน่ายแค่ ’50 คู่’ ในราคา 6,990 บาท (โดยอาดิดาส สาขาสยาม ได้เปลี่ยนวิธีการซื้อปกติเป็นจับฉลาก) NMD จึงกลายเป็นของหายากไปโดยปริยาย งานนี้ เลยแล้วแต่บุญแต่กรรมและความไว ถ้าอยากได้ ก็จัดไป (ของหิ้วอาจแพงหน่อย) แต่ถ้ารอไหว ไปรอลุ้นรุ่นหน้าละกัน…
สุดท้ายนี้ใครคือผู้โชคดี 50 ท่าน ในไทย ท่านน่าอิจฉามากกกกกกกกกกก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น